ในสถานการณ์ที่ปุ๋ยเคมีราคาแพงทำให้เกษตรกรเริ่มหันมาหาวิธีลดต้นทุนค่าปุ๋ยลง แนวทางหนึ่งก็คือการหันไปเลือกใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ถือว่ามีราคาต่ำกว่า ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายและปัจจุบันเกษตรกรสามารถทำใช้เองได้ แต่ปัญหาของปุ๋ยอินทรีย์คือธาตุอาหารหลัก N P K ต่ำกว่าปุ๋ยเคมีมาก ทางออกในเรื่องนี้จึงมักนิยมใช้ร่วมกันหรือใช้สลับกัน ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่มักนิยมวิธีนี้กันมากขึ้น แต่ก็มีเกษตรกรจำนวนไม่น้อยที่มองว่าหากใส่ปุ๋ยอินทรีย์จะทำให้ผลผลิตลดลง
ปุ๋ยอินทรีย์จะเป็นตัวช่วยได้หรือไม่ ในยามที่ปุ๋ยเคมีแพง???
เกี่ยวกับเรื่องนี้ “เกษตรก้าวไกล” ได้สอบถาม นายสมาน รักษาพราหมณ์ หรือ “อาจารย์สมาน” ปราชญ์ กอรมน.จังหวัดนครปฐม และในฐานะผู้ผลิตปุ๋ยอินทรีย์รายหนึ่ง อาจารย์สมานกล่าวว่า ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจเสียก่อนว่าที่หลายๆคนถามว่า ถ้าเขาเปลี่ยนจากการใช้ปุ๋ยเคมีมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ผลผลิตของเขาจะลดลงหรือไม่
อธิบายเรื่องค่าการย่อยสลายที่สมบูรณ์
“จริงๆคืออย่างนี้นะครับ หลายๆคนถามว่าปุ๋ยอินทรีย์เวลาใช้แล้วได้ผลหรือเปล่า เราต้องดูค่าวิเคราะห์ครับ ใน 1 กิโลกรัม N เท่าไร P เท่าไร K เท่าไร จากนั้นก็หาค่า OM ค่าออแกนิคแมทเตอร์ (OM : Organic Matter หรือ อินทรียวัตถุ) และค่า GI (GI : Germination Index) ค่าการย่อยสลายที่สมบูรณ์ อย่างกรมวิชาการเกษตรเกษตรตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 80% ของผมมีอยู่ 143% เกือบ 2 เท่า คือเราเอาอินทรีย์วัตถุมาหมักด้วยจุลินทรีย์ตัวดีต้องใช้เวลาอย่างน้อย 8 เดือน ถึง 1 ปี ยิ่งหมักตั้งไว้นานค่าการย่อยสลายยิ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ นั่นคือการย่อยสลายที่สมบูรณ์แล้วพืชนำไปใช้ได้ทันที แต่ปัญหาปุ๋ยอินทรีย์ทั่วไปที่เขาตั้งไว้ 80% ได้ 81 , 82% หรืออย่างค่า OM เขาตั้งไว้ 20% ของผมมี 28 กว่า เพราะว่าอินทรีย์วัตถุแต่ละตัวผมเลือกเฟ้นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นมูลโคขุน ทำไมต้องเป็นโคขุน เพราะว่าโคที่ขุน เขาใช้อาหารอย่างดี มีวิตามินต่างๆ เช่น ข้าวโพด แล้วก็ปลาป่นโปรตีนมันสูง และมีธาตุอาหารเสริมธาตุรองครบ NPK ในปุ๋ยมีเกิน 8 แต่พืชทั่วไปกินแค่ 8 เพราะฉะนั้นแค่นี้ก็พอแล้ว”
ทุเรียนจังหวัดตราดต้นนี้อายุยืน เกษตรกรเจ้าของสวนบอกว่าใส่ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมี
เพื่อให้แน่ใจในการเลือกใช้ปุ๋ยอินทรีย์ให้ได้ผลดีทางอาจารย์สมานบอกว่า เกษตรกรต้องขอค่าวิเคราะห์ธาตุอาหารจากผู้ขาย ว่าตรงตามที่กรมวิชาการเกษตรกำหนดไว้หรือไม่ ถ้าเกษตรกรไม่มีข้อมูลตรงนี้กว่าจะรู้ต้องใช้เวลาเป็นเดือน เพราะว่าปุ๋ยที่ใส่ถึงจะรู้ว่าพืชใช้ได้ผลหรือไม่
มั่นใจว่าปุ๋ยอินทรีย์ก็สามารถใช้ได้ผลดีเหมือนกัน
“ผมมั่นใจว่าปุ๋ยอินทรีย์ก็สามารถใช้ได้ผลดีเหมือนกัน ผลผลิตไม่ตกต่ำหากปุ๋ยอินทรีย์นั้นๆมีคุณภาพสูง แล้วทีนี้ทุเรียน เงาะ ไม้ผลต่างๆ เขากลัวเอาไปใช้แล้วไม่ได้ผล ถ้าคุณกลัวคุณก็เอาปุ๋ยเคมี เช่น สูตร 16-16-16 (ขนาด 50 กิโลกรัม) เอามา 1 ลูก แล้วเอาอินทรีย์ 3 ลูก (ลูกขนาดเท่ากัน) เอามาผสมกันมันก็จะได้ธาตุอาหารหลักธาตุเสริมธาตุรองครบ ผมรับรองว่าผลผลิตทุเรียนหรือไม้ผลก็จะเท่าเดิม” อาจารย์สมาน ยืนยันมั่นใจ และย้ำว่ากรณีสัดส่วนผสมนี้ก็อาจจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับพื้นที่และความสมบูรณ์ของธาตุอาหารในดินนั้นๆ ซึ่งเกษตรกรจะต้องนำดินไปวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าดินขาดธาตุอาหารอะไรบ้าง
อธิบายเรื่องอินทรีย์วัตถุที่ประกอบเป็นปุ๋ยอินทรีย์
สำหรับปุ๋ยอินทรีย์ของอาจารย์สมาน มีส่วนผสมของ กากตะกอนยีสต์ 30% มูลโคขุน 30% และที่โรงงานอื่นไม่มี คือกากตะกอนโรงงานปลากระป๋อง 30% อีก 10% เป็นมูลค้างคาว โดยเฉพาะปลากระป๋องนั้นกลายเป็นจุดเด่นจนบางคนเรียกว่า “ปุ๋ยปลากระป๋อง” อาจารย์สมานบอกว่า หลายคนอาจจะสงสัยว่าไปเอามาจากไหน “ตราบใดที่ประเทศไทยยังนิยมบริโภคปลากระป๋อง กากตะกอนปลากระป๋องก็ไม่มีวันหมด ผมมีใบอนุญาติกำจัดของเสียในโรงงานอุตสาหกรรม จึงสามารถไปเอามาได้และนำมาหมักทิ้งไว้ รวมทั้งอินทรียวัตถุตัวอื่นๆ ใครมาที่โรงงานจะเห็นว่ามีภูเขาหลายลูก นั่นก็คือวัตถุดิบที่จะนำมาทำปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งหมักไว้เป็นปีครับ”
ภูเขาที่เห็นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของวัตถุดิบผลิตปุ๋ยอินทรีย์
นอกจากนี้ อาจารย์สมานยังกล่าวในตอนท้ายว่า ตนเองผลิตปุ๋ยอินทรีย์มานานนับสิบปี แต่ที่ผ่านมาไม่ได้ทำการตลาดหรือประชาสัมพันธ์แต่อย่างใด เนื่องจากทำส่งให้ประเทศเวียดนาม และผลิตให้กับลูกค้าประจำที่นำไปกระจายในกลุ่ม โดยเฉพาะที่สุราษฎร์ธานี ขายดีมาก นิยมนำไปใส่ในทุเรียน ยางพารา และปาล์มน้ำมัน อีกทั้งนาข้าว มันสำปะหลัง ในภาคกลาง ภาคเหนือ และ อีสาน สำหรับที่เวียดนามได้รับผลกระทบในช่วงโควิด 19 แต่ตอนนี้ก็กำลังจะกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง
มั่นใจปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง รอรับที่บ้านได้เลย
สำหรับการขยายตลาด ได้ร่วมมือกับ บริษัท ซุปเปอร์เอสเอ็กเพรส จำกัด เพื่อกระจายสินค้าไปยังผู้สนใจ โดยใช้กลยุทธ์ “ปุ๋ย Express” หรือ “ปุ๋ยด่วนส่งถึงบ้านทั่วเทศ” ผู้สนใจสามารถสั่งซื้อปุ๋ยอินทรีย์สูตรอาจารย์สมาน มีทั้งตราสนฉัตร ตราซีสตาร์ ฯลฯ รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง ได้ที่ โทร.ไลน์ 086-3185789 หรือ 063-2799000 ส่วนการจำหน่ายตามร้านค้าในจังหวัดต่างๆ กำลังวางแผนเรื่องการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการและจะประกาศรับสมัครตัวแทนจำหน่ายต่อไป
ส่งถึงบ้านทั่วประเทศ 
ส่งที่พัทลุง
เกษตรกรนนทบุรี-นครปฐม ซื้อไปใส่ทุเรียนโดยเฉพาะ
