นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ตามที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์บูรณาการความร่วมมือจัดทำโครงการส่งความสุขปีใหม่ มอบให้เกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี พ.ศ. 2566 ขึ้น เพื่อเป็นการส่งมอบผลิตภัณฑ์การเกษตรคุณภาพ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้เกิดการใช้จ่าย สร้างรายได้เพิ่ม และลดรายจ่ายครัวเรือนให้กับเกษตรกรและประชาชน และส่งมอบความสุขจากการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศเกษตรที่สวยงาม พร้อมกับได้รับความรู้ทางด้านการเกษตร
โดยกำหนดกิจกรรมหลักประกอบด้วย กิจกรรมเพิ่มสุขปีใหม่ เที่ยวทั่วไทย สุขใจไปกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกิจกรรมเสริมพลังปีใหม่ จำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ สินค้าเกษตรคุณภาพ กรมส่งเสริมการเกษตรขานรับนโยบายดังกล่าว จัดกิจกรรมส่งความสุขปีใหม่มอบให้เกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำปี 2566 ของกรมส่งเสริมการเกษตร: Keep Going, Keep Growing, Sharing Happiness” เพื่อแสดงถึงการส่งสุขตลอดปี 2566 จากใจกรมส่งเสริมการเกษตร และ 4 เสริม ในการขับเคลื่อนงานเพื่อพัฒนาเกษตรกร และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้เกิดความยั่งยืน เน้นหลักตลาดนำการผลิต และนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม มาปฏิรูปภาคการเกษตรสู่ยุคดิจิทัลมากยิ่งขึ้น โดยเตรียมจัด 2 กิจกรรมสำคัญ ได้แก่ กิจกรรมส่งสุขปีใหม่ กิน เที่ยวทั่วไทย สุขใจด้วยกัน จัดเต็มตลอดเดือน และ กิจกรรมส่งสุขปีใหม่ กิน เที่ยวทั่วไทย สุขใจด้วยกัน จัดเต็มตลอดปี (Season Festival)
สำหรับกิจกรรมส่งสุขปีใหม่ กิน เที่ยวทั่วไทย สุขใจด้วยกัน จัดเต็มตลอดเดือน กรมส่งเสริมการเกษตรเตรียมการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของเกษตรกร องค์กรเกษตรกร ผ่านร้านค้าสมาคมกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร และผ่านเว็บไซต์ตลาดเกษตรกรออนไลน์ รวมทั้งเป็นการฉลองให้กับยอดการจำหน่ายสินค้าในเว็บไซต์ตลาดเกษตรกรออนไลน์ ครบ 500 ล้านบาท มีการจัดโปรโมชั่นพิเศษในเว็บไซต์ ทั้งบริการจัดชุดของขวัญ ซื้อสินค้าในราคาพิเศษ ซื้อสินค้าพร้อมรับของแถม และบริการพิเศษจากพันธมิตรบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด Kerry Express และ ปอลอ Express ที่ ให้บริการจัดส่งฟรี หรือลดค่าขนส่ง ให้กับทุกรายการ โดยผู้สนใจสามารถเข้าไปเลือกซื้อสินค้าเกษตรได้ผ่าน www. ตลาดเกษตรกรออนไลน์. com สำหรับโปรโมชั่นพิเศษนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2565 ถึงสิ้นเดือนมกราคม 2566
พร้อมกันนี้ ยังมีการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตร ช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2566 โดยจะเปิดสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตร ทั้งแปลงเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน รวมทั้งสถานที่ราชการ ศูนย์ศึกษา/ศูนย์เรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร รวม 110 แห่ง ให้นักท่องเที่ยวแวะเข้าพักผ่อน ศึกษาหาความรู้ด้านการเกษตร ชิมผัก ผลไม้สด ๆ จากไร่ หรือเลือกซื้อของฝากที่ได้รับการรับรองแล้วว่ามีคุณภาพ ได้มาตรฐานจากมือเกษตรกรโดยตรง และสำหรับใครที่มีโอกาสแวะเวียนไปยังศูนย์ขยายพันธุ์พืชทั้ง 10 ศูนย์ คือ ศูนย์ขยายพันธุ์พืชจังหวัดชลบุรี ตรัง นครราชสีมา นครศรีธรรมราช บุรีรัมย์ พิษณุโลก มหาสารคาม ลำพูน สุพรรณบุรี และจังหวัดอุดรธานี สามารถขอรับต้นพืชพันธุ์ดีได้ฟรี
ด้านกิจกรรมส่งสุขปีใหม่ กิน เที่ยวทั่วไทย สุขใจด้วยกัน จัดเต็มตลอดปี (Season Festival) กรมส่งเสริมการเกษตรขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสนุกไปกับกิจกรรมการชิมผัก ผลไม้ ท่องเที่ยวทั่วไทยตามฤดูกาล เรียนรู้วิถีชีวิตผ่านเกษตรกรและคนในชุมชน ศึกษาความรู้ด้านการเกษตร ผ่านแปลงเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ศูนย์ศึกษา / ศูนย์เรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่กรมส่งเสริมการเกษตรให้การสนับสนุน และส่งเสริมมาอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญ เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรทุกท่าน ทุกพื้นที่ ยินดีต้อนรับทุกท่านอย่างอบอุ่นตลอดทั้งปี
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากกิจกรรมส่งสุขปีใหม่ที่กรมส่งเสริมการเกษตรตั้งใจส่งมอบให้เป็นของขวัญแล้ว ในปี 2566 ยังเน้นหนักการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตรที่เข้มแข็งตลอดทั้งปี ผ่านการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก โดยนำแนวทางการขับเคลื่อนภาคการเกษตรด้วย BCG Model ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาเป็นกรอบในการจัดทำแนวทางการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตรด้วย BCG Model แบบบูรณาการเชิงพื้นที่
นอกจากนี้ยังมุ่งเสริมสร้างศักยภาพเกษตรกร โดยดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนา Smart Farmer และ Young Smart Farmer ให้มีความรู้และทักษะในการบริหารจัดการธุรกิจเกษตรเป็นผู้ประกอบการเกษตรที่มีศักยภาพ เสริมสร้างคุณภาพสินค้าเกษตร โดยการใช้กลไกพัฒนายกระดับแปลงใหญ่ การผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและมีมูลค่าสูงขึ้น พัฒนาสินค้าเกษตรตามอัตลักษณ์พื้นถิ่น ส่งเสริมเกษตรสมัยใหม่และเกษตรอัจฉริยะ ตลอดจนการใช้พืชพันธุ์ดี และเสริมสร้างความรู้และให้บริการ โดยปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานภายในองค์กรให้เป็นดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานส่งเสริมการเกษตร และพัฒนาระบบบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกร ผ่านเว็บแอปพลิเคชันและโมบายแอปพลิเคชันที่หลากหลาย ดูแลครอบคลุมทุกขั้นตอนการเกษตรอีกด้วย