กรมวิชาการเกษตร เปิดตัวมะพร้าวกะทิน้ำหอมพันธุ์ใหม่ สร้างรายได้แสนบาทต่อไร่
กรมวิชาการเกษตร เปิดตัวมะพร้าวกะทิน้ำหอมพันธุ์ใหม่ สร้างรายได้แสนบาทต่อไร่

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า มะพร้าวกะทิเป็นที่ต้องการของตลาดมีแนวโน้มการขยายตัวของตลาดมะพร้าวกะทิสูงขึ้นทุกปี เนื่องจากมะพร้าวกะทิเป็นมะพร้าวที่หายาก ส่งผลให้มีราคาสูงกว่ามะพร้าวธรรมดาหลายเท่าตัว ราคาที่เกษตรกรขายส่งหน้าสวนประมาณ 60- 100 บาทต่อผลขึ้นอยู่กับน้ำหนักของผล เนื่องจากเนื้อกะทิมีลักษณะเนื้อหนา ฟู อ่อนนุ่ม รสชาติ หวานมัน อร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการ ไขมันต่ำ ไฟเบอร์สูง และมีกรดลอริกสูงถึง 46% อย่างไรก็ตามโดยปกติในธรรมชาติไม่มีต้นมะพร้าวกะทิพันธุ์แท้ เนื่องจากผลที่เป็นมะพร้าวกะทิไม่สามารถงอกได้โดยธรรมชาติ โดยในมะพร้าว 1,000 ลูกจะพบมะพร้าวกะทิเพียง 1-3 ลูก ทำให้ผลผลิตมะพร้าวกะทิไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด ซึ่งการขยายพันธุ์ต้องใช้คัพภะ (ต้นอ่อนของพืช) ที่เพิ่งเริ่มพัฒนาตามธรรมชาติที่ถุงรังไข่ มาเพาะเลี้ยงด้วยอาหารสังเคราะห์ เพื่อให้เกิดเป็นต้นพืชโดยตรงหรือไม่เกิน 0.3 เปอร์เซ็นต์  หากสามารถทำให้มะพร้าวทุกผลเป็นมะพร้าวกะทิจะช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรแบบก้าวกระโดดและสร้างความยั่งยืนในอาชีพ

ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร กรมวิชาการเกษตร ได้พัฒนาพันธุ์มะพร้าวกะทิโดยมีนายสมชาย วัฒนโยธิน ข้าราชการบำนาญ กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้ริเริ่มการปรับปรุงพันธุ์มะพร้าวกะทิ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการขยายพันธุ์มะพร้าวกะทิด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงคัพภะ และเป็นผู้วางรากฐานในการผลิตพันธุ์มะพร้าวลูกผสมกะทิ และมีนางปริญดา หรูนหีม เป็นผู้วิจัยหลักในการปรับปรุงพันธุ์มะพร้าวกะทิพันธุ์แท้ร่วมกับนักวิจัยและทีมงานศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร ได้วิจัยปรับปรุงพันธุ์และพัฒนาพันธุ์มะพร้าวกะทิพันธุ์แท้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้พันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงไม่ต่ำกว่า 80 ผล/ต้น/ปี ขนาดผลไม่ต่ำกว่า 1,500 กรัม/ผล และมีผลผลิตที่เป็นมะพร้าวกะทิทุกผล โดยปลูกทดสอบมะพร้าวน้ำหอมกะทิพันธุ์แท้ (NHK-C2) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงคัพภะของมะพร้าวพันธุ์ลูกผสมกะทิ พันธุ์ชุมพร 84-2  (น้ำหอม X กะทิ) (NHK) ผลผลิตเป็นมะพร้าวกะทิ ไม่ต่ำกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ และการเพาะเลี้ยงคัพภะของมะพร้าวน้ำหอมกะทิพันธุ์แท้ (NHK-C1) จากต้นที่มีลักษณะที่ดีทางการเกษตร ผลผลิตสูงเป็นมะพร้าวกะทิทุกผล จากนั้นได้ดำเนินปลูกทดสอบมะพร้าวน้ำหอมกะทิพันธุ์แท้ (NHK-C2) จำนวน 121 ต้น ระหว่างปี 2556–2565 ที่สวนผลิตพันธุ์มะพร้าวลูกผสมคันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า จากผลการวิจัยปรับปรุงพันธ์ทำให้ได้มะพร้าวน้ำหอมกะทิพันธุ์แท้ที่ให้ผลผลิตเร็ว ในช่วงอายุ 89 ปี พบว่าให้ผลผลิตเฉลี่ย 105 ผล/ต้น/ปี หรือ 2,310 ผล/ไร่/ปี ผลมีขนาดกลางถึงใหญ่  มีน้ำหนักเฉลี่ย 2,032 กรัม/ผล น้ำหนักเนื้อ 670 กรัม และความหนาเนื้อ 23.8 มิลลิเมตร ค่าความหวานของน้ำมะพร้าว 6.2 องศาบริกซ์ และผลผลิตทุกผลเป็นมะพร้าวกะทิ ลักษณะเนื้อ สามารถแบ่งได้ 3 ลักษณะ คือ เนื้อนิ่มไม่ฟู น้ำใส เนื้อฟูปานกลาง น้ำข้นปานกลาง และเนื้อฟูเต็มกะลา น้ำข้นเหนียว

จากการวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตต่อไร่ ผลตอบแทนสุทธิ เฉลี่ย 4 ปี พบว่า ต้นทุนการผลิตต่อไร่ของมะพร้าวน้ำหอมกะทิพันธุ์แท้ คือ 9,393 บาทต่อไร่ ผลตอบแทนสุทธิ155,607 บาทต่อไร่ ซึ่งมากกว่ามะพร้าวกะทิลูกผสมพันธุ์ชุมพร 84-2 ที่มีผลตอบแทนสุทธิ 41,419 บาทต่อไร่ ในขณะที่มะพร้าวแกงที่มีผลตอบแทนสุทธิ 8,362 บาทต่อไร่ กล่าวคือ มะพร้าวน้ำหอมกะทิพันธุ์แท้มีผลตอบแทนสุทธิสูงกว่า มะพร้าวลูกผสมกะทิ พันธุ์ชุมพร 84-2 ถึง 276 เปอร์เซ็นต์ และสูงกว่ามะพร้าวแกงถึง 1,761 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากราคาจำหน่ายมะพร้าวแกง 9 บาท ส่วนราคาจำหน่ายมะพร้าวมะพร้าวกะทิ 80 บาท ดังนั้นการปลูกมะพร้าวกะทิจึงเป็นการสร้างรายได้แบบก้าวกระโดดให้กับเกษตรกรชาวสวนมะพร้าว

เกษตรกรหรือผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่..นางปริญดา หรูนหีม นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชสุราษฎร์ธานี กรมวิชาการเกษตร โทรศัพท์ 081-1882217

หมายเหตุ/เกษตรก้าวไกล

อนึ่ง เนื่องจากมีเกษตรกรและผู้สนใจสอบถามเข้ามามาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นประเด็นต้องการจองพันธุ์หรือซื้อพันธุ์มะพร้าวกะทิน้ำหอมพันธุ์ใหม่ ตามที่ข่าวที่เสนอไปแล้ว เพื่อให้เรื่องนี้กระจ่างมากขึ้น เมื่อช่วงสายวันนี้ (27 ธ.ค.2565) “เกษตรก้าวไกล” จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามเพิ่มเติมจาก นางปริญดา หรูนหีม ในฐานะผู้วิจัยหลัก และทำหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชสุราษฎร์ธานี ปรากฏว่าติดประชุม จึงได้พูดคุยกับนักวิชาการท่านหนึ่งที่พูดสายแทน ได้รับคำตอบว่า..

“ปัจจุบันยังไม่ได้เปิดจองต้นพันธุ์ ต้องรอขั้นตอนการรับรองพันธุ์ของกรมวิชาการเกษตรเสียก่อน ซึ่งเรื่องอยู่ในขั้นตอนนี้ คาดว่าประมาณปีหน้า(ปี2566) อาจจะประมาณกลางปี จึงจะกำหนดราคาและเปิดให้จองซื้อได้”

ถามต่อว่า น่าจะราคาต้นละประมาณกี่บาท ได้รับคำตอบว่า “ยังกำหนดราคาไม่ได้ แต่ถ้าพันธุ์เดิมที่กะทิ 25% ราคาต้นละ 50 บาท” (กรณีพันธุ์ใหม่นี้ กะทิ 100% (กะทิทุกลูก) แถมน้ำหอม ราคาก็คงไม่ต่ำกว่าต้นละ 50 บาท ตรงนี้เกษตรก้าวไกลคาดการณ์เอง)

ถามว่ามีผู้สนใจโทร.เข้ามาถามรายละเอียดเยอะไหมและส่วนใหญ่ถามเรื่องอะไร ตอบว่า “เยอะมาก ตั้งแต่เช้ามาสายแทบไม่ว่างเลย..ส่วนใหญ่ก็ถามเรื่องเดียวกับที่เกษตรก้าวไกลถาม”

สรุปว่า มะพร้าวกะทิน้ำหอมพันธุ์ใหม่นี้ ยังไม่ได้เปิดจองเพียงแต่แจ้งข่าวให้ทราบเกี่ยวกับรายละข้อดีของมะพร้าวกะทิน้ำหอมพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นพันธุ์แท้ ตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่งั้นก็จะไม่ทราบข่าวกันอีก..โปรดทราบตามนี้

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated