50 ปี สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย ฉลองใหญ่ จัดมอบโล่เกียรติคุณแก่คณาจารย์ผู้มีคุณูปการต่อวงการเกษตร
50 ปี สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย ฉลองใหญ่ จัดมอบโล่เกียรติคุณแก่คณาจารย์ผู้มีคุณูปการต่อวงการเกษตร

นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน และปฐกถาพิเศษในงานครบรอบ 50 ปี สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณผู้สร้างคุณประโยชน์ ให้แก่วงการเกษตรประเทศไทย ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา

นายกองเอก เปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมฯกล่าวว่า สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย ได้ก่อตั้งขึ้นด้วย โดยการรวมตัวของผู้ประกอบการค้าปุ๋ยเคมี เมล็ดพันธุ์ และสารกำจัดศัตรูพืช เมื่อปี 2514 ภายใต้วิสัยทัศน์ที่จะเป็นองค์กรที่จะยกระดับมาตรฐานการผลิต

สินค้าเกษตร ทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศผู้ผลิตอื่นๆ และสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับเศรษฐกิจ สังคม ภาคการเกษตร และอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศไทย สมาคมฯมุ่งมั่นที่จะผนึกกำลังกันช่วยเหลือประสานงานกับหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา หรือองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร ในการให้ความรู้แก่เกษตรกรและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ปุ๋ยเคมี เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร สร้างผลิตผลที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล สามารถแข่งขันกับนานาชาติได้อย่างทัดเทียม และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยเพื่อมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมั่นคง ทั้งนี้ในงานฉลองครบรอบ 50 ปี ได้จัดให้มีการมอบโล่เกียรติคุณแก่คณาจารย์ผู้มีคุณูปการต่อวงการเกษตร จำนวน 8 ท่าน ดังนี้

  1. ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.สรสิทธิ์ วัชโรคยาน
  2. ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.อำนาจ สุวรรณนฤทธิ์
  3. ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ปิยะ ดวงพัตรา
  4. รองศาสตราจารย์ ดร.ยงยุทธ โอสถสภา
  5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุมิตรา ภู่วโรดม
  6. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อดิศักดิ์ บ้วนกลียาพันธ์
  7. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อรรถสิทธิ์ วงษ์มณีโรจน์
  8. นายถวิล สุวรรณมณี

“ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้ดำเนินงานภายใต้ความยึดมั่นในพันธกิจหลักอย่างมีจริยธรรม ธรรมาภิบาล เพื่อส่งเสริมให้ภาคการเกษตรของไทยได้มีการใช้ปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้ความร่วมมือในการทำงานค้นคว้าวิจัยร่วมกับองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพิ่มพูนองค์ความรู้ในด้านการเกษตรของประเทศ จึงได้จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อมอบให้เกษตรกรและสมาชิกและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสมาคมฯ จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนภาคเกษตรกรรมของประเทศไทยด้วยการทำการเกษตรที่ถูกต้อง ด้วยแนวทางเกษตรปลอดภัย (Good Agricultural Practice) เพื่อสร้างคุณประโยชน์แก่วงการเกษตรไทยให้เกิดความเจริญก้าวหน้า มั่นคง และยั่งยืนตลอดไป” นายกสมาคมฯกล่าวทิ้งท้าย

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated