ดร. วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า จากที่ นายสุนทร ปานแสงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบายผู้บริหารเพื่อขับเคลื่อนภารกิจสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ประจำปี 2566 เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยประกอบด้วย 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ หนึ่ง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ควรเร่งรัดการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรให้ครอบคลุมพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน ทั้งแหล่งน้ำผิวดิน ใต้ดิน สระน้ำ การขุดเจาะบ่อบาดาลพร้อมหอถังสูงระบบโซล่าเซลล์ และการก่อสร้างฝายชะลอน้ำ โดยใช้เงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สอง การพัฒนาเกษตรกร มุ่งการผลิตเกษตรปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ต้องส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีทางการเกษตร การนำนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จำเป็นต่อการผลิตมาเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต และต้องเป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงง่ายและราคาสมเหตุสมผล เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรสามารถดูแลบริหารจัดการได้เอง

นายสุนทร ปานแสงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

สาม ขอให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ใช้ข้อมูลเทคโนโลยีนวัตกรรมในเรื่องของ Big Data ในการเชื่อมโยงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเกษตรกร มาใช้ประกอบการดำเนินงาน การเข้าถึงข้อมูลง่ายขึ้นจะช่วยให้การดำเนินงานสะดวกรวดเร็ว และสี่ เร่งรัดแก้ไขปัญหาการเข้าถึงที่ดินของผู้ไร้ที่ดินทำกินและเกษตรกรผู้ประสงค์มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ให้มีการบริการที่รวดเร็ว ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับเกษตรกร การแก้ไขกฎหมายให้กำหนดนโยบายที่ชัดเจนและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร

“ขณะนี้ได้มอบหมายให้กับหน่วยงานในสังกัดได้เร่งดำเนินการตามนโยบายที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมาย ซึ่งนโยบายดังกล่าว ถือว่า สอดคล้องกับภารกิจสำคัญของ ส.ป.ก.ที่มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ประกอบด้วย การจัดที่ดิน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน การพัฒนาเกษตรกร และการบริหารเงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินงาน โดยเฉพาะด้านการพัฒนาเกษตรกรในพื้นที่ ส.ป.ก. ดร. วิณะโรจน์ กล่าวว่า ส.ป.ก. ดำเนินการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรแล้วกว่า 36 ล้านไร่ อีกทั้งปัจจุบันได้มีการนำระบบออนไลน์เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการให้บริการประชาชน นอกจากนี้ ยังได้เร่งรัดปรับปรุงกฎหมายปฏิรูปที่ดินและระเบียบต่าง ๆ ให้มีความทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดที่ดินให้เกษตรกรเข้าถึงการจัดที่ดินได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นและมีความเป็นธรรม

“พร้อมกันนี้ยังได้เน้นการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ผ่านการการบูรณาการร่วมกันโดยได้มีการทำ MOU กับ 9 หน่วยงาน เพื่อขับเคลื่อนงานพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเกษตร การพัฒนาเกษตรกรให้เป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง ส่งเสริมการผลิตที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานรองรับ โดยตั้งเป้าหมายให้สินค้าเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินมีความปลอดภัยและได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP ด้านการบริหารเงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม มีการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการเกษตร รวมถึงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรตามนโยบายรัฐบาล อาทิ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติหรือโรคระบาด เป็นต้น  

“วันนี้ ส.ป.ก. มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการดูแลพี่น้องเกษตรกรให้อยู่ได้ อยู่ดี มีความสุข เราเน้นการขับเคลื่อนนโยบายพัฒนา ทั้งของรัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรสามารถอยู่ดี มีสุข บนที่ดิน ส.ป.ก. ที่เป็นแผ่นดินทองคำ” ดร.วิณะโรจน์ กล่าวในที่สุด

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated