ภาพลูกทุเรียนที่เห็นกองอยู่ในบ้านนี้ (ตามภาพแรกมุมซ้าย) อาจารย์สุดา เทพเกลี้ยง ข้าราชการบำนาญ จากอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ส่งมาบอกว่าเป็นทุเรียนก้านยาว ที่เพิ่งไปสอยจากต้นเมื่อวันก่อน ถามไถ่จึงได้ความว่า เป็นทุเรียนที่ออกนอกฤดูตามธรรมชาติ ไม่ได้เร่งสารหรือฉีดสารอะไรทั้งสิ้น และทุเรียนต้นนี้ออกแบบนี้มาหลายปีแล้ว บางปีที่ต้นสมบูรณ์ออกถึง 3 รุ่น รุ่นละ 30-40 ลูก ส่วนรุ่นนี้ออกประมาณ 50-60 ลูก และก็ไม่น้อยหน้ากับทุเรียนในฤดู คือ ออกดอกอีกแล้ว
“ทุเรียนต้นนี้มีประมาณ 30 ปี ทางคุณพ่อของสามีเป็นผู้ปลูกไว้ เดิมปลูกไว้ทั้งหมด 7-8 ต้น แต่หลังจากให้ผลผลิตก็ทยอยตายไปเหลือเพียงต้นเดียว ที่ตายไปนั้นเป็นพันธุ์หมอนทอง สันนิษฐานว่า เพราะภัยแล้ง ช่วงหน้าแล้ง ไม่ค่อยได้รดน้ำหรือดูแลเท่าไร และส่วนหนึ่งก็คิดว่าอาจจะมีโรคยืนต้นตายแทรกซ้อน(โรครากเน่าโคนเน่า) เพราะสังเกตดูใบเหี่ยวใบร่วงและตายในที่สุด ส่วนต้นนี้ที่ยังอยู่ยงคงกระพันธ์ เพราะว่าอยู่ใกล้บ้านที่สุด มีแป๊บน้ำลากไปถึง ทำให้มีโอกาสได้ดูแลอยู่บ้าง”
จากข้อมูลดังกล่าว “เกษตรก้าวไกล” ได้นำไปลงในเพจเกษตรก้าวไกลไปด้วยกัน หัวข้อเรื่องว่า “ธรรมชาติเปลี่ยนไป ทุเรียนปรับตัว คนปรับใจ(ทุเรียนออกปีละ3รุ่นก็เป็นไปได้แล้ว)” เพื่อหวังว่าจะให้ทุกคนตระหนักถึงภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้นำเสนอเรื่องนี้มาเป็นระยะผ่านสื่อในเครือข่าย แต่กลับกลายเป็นว่าผู้คนให้ความสนใจหรือติดใจเรื่องของลูกทุเรียนที่บอกว่าสอย
ตัวอย่างความคิดเห็น..ขออนุญาตนำมาลงประกอบข่าว
นั่นคือแสดงความคิดเห็นว่าไม่น่าจะสอย เพราะมีหญ้ามีใบไม้ติดที่ลูกทุเรียน “มันน่าจะกิ่งหัก” “มันน่าจะโดนลม” “เป็นไปไม่ได้เลยที่บอกว่าสอย” “คนเขียนข่าวกับภาพอธิบายแบบไม่มีความรู้” “ลงข่าวต้องตรวจสอบก่อน” อะไรประมาณนี้ (แต่ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่แสดงความคิดเห็น ซึ่งตามภาพก็น่าสงสัย และเป็นโอกาสดีที่เกษตรก้าวไกลจะได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมครับ)
ไม้สอยทุเรียน 
ไม้สอยจะมีตะขอแบบนี้
ทำเอา “เกษตรก้าวไกล” ก้นร้อนนั่งไม่ติด เพราะวิสัยของคนทำข่ายที่ยึดมั่นในวิชาชีพไม่เคยบิดพลิ้วหรือนั่งเทียนเขียน ฟังมาอย่างไรก็รายงานข่าวไปตามนั้น และกรณีนี้ก็สงสัยอยู่ 2 วัน ตรวจสอบทั้งคนที่ส่งภาพมา กับคนที่ไปสอยมา ทั้ง 2 คนก็ให้การตรงกัน สรุปก็คือสอย
คำว่าสอยของชาวปักษ์ใต้ คือใช้ไม้ไผ่ลำยาวๆที่ปัจจุบันหาดูยากแล้ว (สมัยก่อนไม้ผลจะต้นสูงใหญ่แบบธรรมชาติเขายังไม่มีการปรับปรุงพันธุ์หรือตัดแต่งกิ่งให้ต้นเตี้ย) ที่ปลายมีตะขอเหล็ก วิธีการนั้นใช้ไม้สอยเล็งไปที่ก้านลูกทุเรียน จากนั้นดึงลงมา รวมเรียกว่าสอย ตามที่จริงที่ใต้ต้นทางเกษตรกรมีตาข่ายขึงไว้รับเวลาทุเรียนร่วงสุกหล่น แต่คราวนี้ไม่สามารถรอให้สุกหล่นทีละลูกได้ จึงตัดสินใจใช้ไม้สอย เพราะติดงานสร้างบ้านอยู่อีกที่หนึ่งที่ต้องเร่งให้เสร็จทันเวลา
โดยเกษตรกรได้ตัดสินใจไปสอยทุเรียนที่ยังหลงเหลืออยู่(ตามรูปทุเรียนในเข่ง) พร้อมกับถ่ายรูปส่งมาตามคำร้องขอของเกษตรก้าวไกล ซึ่งจะให้ถ่ายคลิปแต่เกษตรกรไม่ถนัดและอยู่คนเดียว ไม่สามารถหาใครมาช่วยถ่ายได้
โดยสรุปของเรื่องนี้ อยากจะสื่อสารว่าทุเรียนจะสามารถออกได้ทั้งปี ถ้าหากต้นสมบูรณ์ ซึ่งเกื้อหนุนกับสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ฝนฟ้าตกไม่ตรงฤดูกาล วันใดที่อากาศเป็นใจทุเรียนก็พร้อมออกดอกติดลูก(ถ้าต้นสมบูรณ์) ส่วนที่ว่าจะติดลูกได้ดีแค่ไหนก็อยู่ที่คนดูแล..ธรรมชาติกำลังรีสตาร์ทใหม่ เพื่อให้มนุษย์มีเวลาปรับตัวปรับใจ..เกษตรก้าวไกลขอเป็นกำลังใจให้กับเกษตรกรไทยทุกคนนะครับ
เหลือจากแจกจ่ายก็ทำเป็นทุเรียนกวน 
ทุเรียนก้านยาวกวนใจไม่น้อยเลย
