นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่าสำหรับนโยบายการพัฒนาองค์กรและสินค้าของสยามคูโบต้า ในปี 2566 นี้ได้ให้ความสำคัญกับการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายการทำเกษตรของโลกเกษตรใหม่ เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อไปสู่ โลกเกษตรสีขาว White Agri-World ภายใต้แนวคิด “ใช้น้อย ได้มาก เพื่อความยั่งยืน” ที่มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมเกษตรอย่างรับผิดชอบผ่านส่วนผสมที่เป็นกุญแจสำคัญ ได้แก่ White Machinery นวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรสมัยใหม่ White Solutions นวัตกรรมวิธีการทำเกษตรรูปแบบใหม่ White Corporation องค์กรสีขาวที่มุ่งเน้นสู่ความยั่งยืน
“โดยให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับโลกเกษตรเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตและโลกไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้ Key Driver ที่จะเป็นหัวใจสำคัญที่นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน คือการเป็นผู้นำด้าน NET ZERO Emission ในภาคการเกษตร โดยรณรงค์ให้มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งภายในองค์กรและภาคการเกษตรสุทธิเป็นศูนย์ ได้แก่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การลดการปล่อยมลพิษในกระบวนการผลิต การจัดการน้ำและปุ๋ยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และพัฒนาโซลูชันเกษตรแม่นยำที่ลดการปล่อยคาร์บอน โดยร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อขยายผลสู่ระดับประเทศ” นางวราภรณ์ กล่าว
นางวราภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนการพัฒนาโครงการด้านสังคม เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของชุมชน พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้พึ่งพาตนเองได้ ภายใต้นโยบาย ESG สยามคูโบต้าได้ดำเนินการ โครงการชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า ให้องค์ความรู้จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ และช่วยเกษตรกรในการลงมือปฏิบัติจริงเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในการเพิ่มรายได้ โครงการคูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจ สนับสนุนให้เกษตรกรรายย่อยรวมกันใช้เครื่องจักรฯ เพื่อลดต้นทุนและสร้างรายได้ และโครงการชุมชนเกษตรเพาะสุขสยามคูโบต้า มุ่งแก้ปัญหาความยากจน ยกระดับรายได้ให้เกษตรกรรายครัวเรือน นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาคูโบต้าฟาร์ม ในการนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำเกษตรคาร์บอนต่ำ และเพิ่มพื้นที่สร้างประสบการณ์ใหม่อีก 2 โซน ได้แก่ โซน For Earth For Life และ โซนการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้การทำเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามเป้าหมายการขับเคลื่อน Net Zero Emission ในภาคการเกษตรสุทธิเป็นศูนย์
“ในวาระก้าวสู่ปีที่ 45 สยามคูโบต้าได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง “ท้าทายโลกเกษตร” (Challenging Agri-Word For The Better Living) โดยมีแนวคิดในการพาเกษตรกรไปสู่เป้าหมายในเส้นทางที่ดีที่สุดด้วยความมั่นใจ ท่ามกลางโลกที่กำลังรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ทั้งกลุ่ม Traditional Farmer ที่ต้องการนวัตกรรมเกษตรมาช่วยเติมเต็มให้ชีวิต กลุ่ม Smart Farmer ที่กำลังมองหานวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะเพื่อการทำเกษตรที่สมาร์ทยิ่งขึ้น รวมไปถึง Non Farmer ที่สนใจการทำเกษตร ที่มองเห็นถึงโอกาสใหม่ๆ แต่ยังขาดประสบการณ์ ซึ่งเชื่อว่านวัตกรรมเกษตรที่สยามคูโบต้าไม่หยุดพัฒนามาตลอด 45 ปี จะช่วยนำทางทุกคนผ่านทุกความท้าทาย และสร้างนิยามใหม่ในการทำเกษตรได้อย่างแน่นอน” นางวราภรณ์ กล่าว