กรมส่งเสริมการเกษตรได้ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร ส่งเสริมให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการประกอบอาชีพทางการเกษตร โดยนายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ได้เน้นย้ำให้การทำเกษตรของพี่น้องเกษตรกร เป็นแหล่งสร้างงานสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และชุมชนในพื้นที่ พร้อมทั้งคำนึงถึงความยั่งยืนของการประกอบอาชีพ จึงได้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรหรือการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ ช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิต โดยเฉพาะขณะนี้ซึ่งเป็นช่วงที่หลายจังหวัดทางภาคตะวันออก ผลไม้กำลังให้ผลผลิต เตรียมออกสู่ตลาด จึงได้สั่งการให้ทุกจังหวัดช่วยกันประชาสัมพันธ์ผลไม้ และแหล่งผลิตให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค และนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยว และเลือกซื้อผลไม้และสินค้าแปรรูป เน้นประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่า จากภูมิปัญญา และเอกลักษณ์เฉพาะของท้องถิ่น และสร้างเครือข่ายกับชุมชน
เช่นเดียวกับที่จังหวัดจันทบุรี นายปัญญา ประดิษฐสาร เกษตรจังหวัดจันทบุรี ได้จัดกิจกรรมเปิดสวนท่องเที่ยวเชิงเกษตร รวมถึงการส่งเสริมด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยในปี 2565 มีแหล่งท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 52 แหล่ง มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากก่อนเข้าร่วมโครงการคิดเป็นร้อยละ 24 และมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยเปรียบเทียบจากก่อนเข้าร่วมโครงการ จำนวน 8.6 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 32 ซึ่งรายได้ก่อนเข้าร่วมโครงการ 31,200,000 บาท หลังเข้าร่วมโครงการ 39,884,000 บาท
ทั้งนี้ช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนของทุกปี จะเป็นช่วงที่ผลไม้ออกสู่ท้องตลาด เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว อาทิ เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง และสละ สวนผลไม้หลายสวนในจังหวัดจันทบุรี จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาทานผลไม้ภายในสวน โดยมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเดินชมสวน เลือกชิมผลไม้สด รสชาติอร่อยจากต้น กับบรรยากาศดี ๆ เขียวขจี พร้อมทั้งถ่ายรูปกับผลไม้สด ๆ และมีบริการรับประทานผลไม้บุฟเฟต์ภายในสวน ในราคา 690 บาทต่อคน
ในฤดูกาลผลิต ปี 2566 นี้ จังหวัดจันทบุรี ได้รวบรวมสวนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวมาใช้บริการ ดังนี้ อำเภอเมืองจันทบุรี วิสาหกิจชุมชนสวนป่าโกงกางเกษตรอินทรีย์ วิถีชายเลน โทร. 093-1796515, วิสาหกิจชุมชนแปรรูปบ้านปลายคลอง โทร. 081-7366030, สวนพวงมณี โทร. 081-9826990 อำเภอขลุง สวนภูทิพย์ธารา โทร. 098-6354699 วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม โทร. 084-7040469 และวิสาหกิจชุมชนพัฒนาทรัพยากรชีวภาพตำบลวันยาว โทร. 095-9541070 อำเภอแหลมสิงห์ วิสาหกิจชุมชนคลองน้ำเค็มทันใจ โทร. 081-8632637 สวนสาวสุดใจ โทร. 082-2089596 อำเภอท่าใหม่ สวนรินรดี โทร. 062-3699545 วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรชุมชนรักษ์เขาบายศรี โทร. 086-8349604 วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเขาบายศรีอำเภอท่าใหม่ โทร. 086-3663097 วิสาหกิจชุมชนสวนเห็ดจันทบุรี โทร. 087-9066601 วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้เลี้ยงชันโรง (ผึ้งจิ๋ว) บ้านต้นเลีย โทร. 087-4299874 วิสาหกิจชุมชนบ้านท่าศาลา โทร. 087-7331731 และสวนอรุณบูรพา โทร. 086-8249589
อำเภอมะขาม วิสาหกิจชุมชนทุ่งเพลโฮมสเตย์ โทร. 090-5639695 วิสาหกิจชุมชนเกษตรเพื่อสุขภาพบ้านปัถวี (รัฐไท 9 สวน) โทร. 090-5639695 อำเภอเขาคิชฌกูฏ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรเขาคิชฌกูฏ โทร. 084-7797884 อำเภอโป่งน้ำร้อน วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่พัฒนา โทร. 065-5519854 และ ศูนย์เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ตามรอยเท้าพ่อบ้านคลองบอน โทร. 080-6411689 อำเภอนายายอาม บ้านสวนพอเพียง โทร. 081-9450521 สวนคุณติ๋ม โทร. 065-9719895 ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตำบลกระแจะ โทร. 098-2853343 สวนผลไม้พรรณมณี โทร. 089-5085342 สวน BB ทุเรียนน้ำกร่อย โทร. 062-4391687 บ้านขนำรีสอร์ โทร. 062-5692645 บ้านสวนเขาใหญ่รีสอร์ท โทร. 086-0644995 และหมู่บ้านท่องเที่ยวชุมชนเขาสำเภาคว่ำ โทร. 061-6725988 อำเภอแก่งหางแมว วิสาหกิจชุมชนสมุนไพรอินทรีย์อำเภอแก่งหางแมว โทร 089-2459979 และวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่พริกไทยตำบลแก่งหางแมว โทร 086-1747988 อำเภอสอยดาว สวนร่มพฤกษ์ โทร 089-9638345
จังหวัดจันทบุรี เป็นแหล่งผลิตผลไม้แหล่งใหญ่ของประเทศ มีไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญ 7 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ลำไย กล้วยไข่ และสละ ซึ่งผลไม้เหล่านี้จะแบ่งได้ 3 กลุ่ม ได้แก่ ผลไม้ตามฤดูกาล ได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ผลไม้ที่ผลิตนอกฤดูกาล ได้แก่ ลำไย และผลไม้ที่ผลิตได้ตลอดปี ได้แก่ กล้วยไข่ และสละ และซึ่งในแต่ละปีจะมีปริมาณผลผลิตของไม้ผลทั้ง 7 ชนิด รวมกันไม่น้อยกว่า 900,000 ตัน ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง ทดแทนพืชชนิดอื่น เช่น ยางพารา เงาะ ลองกอง เป็นต้น โดยเกษตรกรที่ทำการทำการเกษตรในจังหวัดจันทบุรี มีทั้งที่เป็นเกษตรกรรายเดิม และเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เป็นทายาทเกษตรกรชาวสวนเดิมเข้ามาเริ่มทำการเกษตรกันมากขึ้น เนื่องจากมีราคาผลผลิตเป็นแรงจูงใจที่ดี
