นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ทะเบียนเกษตรกร คือ ข้อมูลของครัวเรือนผู้ประกอบการเกษตรที่แสดงถึงสถานภาพและการประกอบอาชีพการเกษตรของครัวเรือน วัตถุประสงค์ในการขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อจัดทำข้อมูลการเกษตรให้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง และเป็นข้อมูลเอกภาพให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ ในการนำไปใช้วางแผนพัฒนาการเกษตร กำหนดนโยบาย การจัดการด้านการผลิตการตลาด การส่งเสริม สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพตรงเป้าหมาย โดยผู้ที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้แล้ว จะได้รับความสะดวกในการใช้สิทธิ์ขอรับการสนับสนุน ช่วยเหลือ หรือรับบริการต่างๆ จากภาครัฐ
โดยในปี 2566 กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินการเพิ่มช่องทางการขึ้นทะเบียน และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรผ่านระบบออนไลน์ด้วยเครื่องมือ e-Form เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่เกษตรกร และตอบโจทย์ในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสนับสนุนในการปฏิบัติงาน ทำให้ในปัจจุบันเกษตรกรทุกรายที่เพาะปลูกหรือประกอบกิจกรรมทางการเกษตร เช่น ปลูกข้าว ปลูกผัก ปลูกผลไม้ ปลูกพืชแบบสวนผสม ทำนาเกลือสมุทร และเพาะเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ สามารถขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ 2 ทาง คือ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ และดำเนินการด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์
ผู้ที่ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรโดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายใหม่ ต้องยื่นแบบ ทบก.01 พร้อมด้วยบัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาหลักฐานถือครองที่ดิน ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูกหรือจุดนัดหมายที่สำนักงานเกษตรอำเภอนั้นๆ กำหนด หรือผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) โดยสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์ม ทบก.01 ได้ที่ farmer.doae.go.th และสำหรับผู้ที่ดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์ สามารถดำเนินการผ่านเว็บไซต์ e-Form (efarmer.doae.go.th)
โดยทำการลงทะเบียนและกรอกข้อมูลที่สำคัญต่างๆ จากนั้นรอการตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ประมาณ 5 วันทำการ จึงจะสามารถดำเนินการการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ รวมถึงสามารถปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรผ่านแอปพลิเคชัน Farmbook ได้ทั้งระบบ iOS และ Android แต่เกษตรกรรายใหม่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านแอปพลิเคชัน Farmbook ได้ ต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านระบบออนไลน์ในเว็บไซต์ e-Form เท่านั้น
สำหรับกรอบระยะเวลาการขึ้นทะเบียนเกษตรกร เกษตรกรสามารถแจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้เมื่อทำการเพาะปลูกแล้ว 15 วัน หากเป็นไม้ผลหรือไม้ยืนต้น ให้แจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้เมื่อทำการเพาะปลูกแล้ว 30 วัน และปรับปรุงข้อมูลทุกปี ให้เป็นปัจจุบัน สำหรับเกษตรกรรายย่อยที่มีเนื้อที่การเพาะปลูกขั้นต่ำแต่ละชนิดไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด สามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ โดยเกษตรกรต้องยืนยันว่ามีรายได้ที่คาดว่าจะได้รับจากการประกอบการเกษตรตามที่แจ้งขึ้นทะเบียนดังกล่าวในรอบปีเพาะปลูกนั้นๆ เกิน 8,000 บาท ขึ้นไป
ทั้งนี้ การแจ้งข้อมูลเท็จในทะเบียนเกษตรกรถือเป็นความผิดทางอาญาตามมาตรา 137 และ มาตรา 267 แห่งประมวลกฎหมายอาญา รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน