นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่าประเทศญี่ปุ่น มีข้อกำหนด กระบวนการ และขั้นตอนการส่งออกให้มีการควบคุมเรื่องสารเคมีตกค้างและการจัดการกับศัตรูพืชกักกันก่อนการส่งออกอย่างเข้มงวด โดยกำหนดให้มังคุดผลสดจำเป็นต้องผ่านกระบวนการอบไอน้ำ (VHT) เพื่อกำจัดศัตรูพืชกักกันก่อนส่งออกไปยังประเทศปลายทาง ซึ่งวิธีการอบไอน้ำนี้ส่งผลให้ผลผลิตมังคุดเกิดความเสียหายไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 นอกเหนือจากผลผลิตที่อาจจะเสียหายในระหว่างการขนส่งจากประเทศไทยไปยังประเทศปลายทาง เป็นเหตุให้กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตมังคุดเพื่อการส่งออก และผู้ประกอบการขาดแรงจูงใจในการส่งผลผลิตมังคุดเพื่อการส่งออก เห็นได้จากปริมาณและมูลค่าการส่งออกมังคุดไทยไปยังประเทศญี่ปุ่นอยู่ในลำดับที่ 7 ทั้งที่มีปริมาณความต้องการซื้อจากผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นสูง กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้ส่งเสริมเกษตรกรให้สามารถยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพดีที่สูงขึ้น มีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถเพิ่มช่องทางและขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศได้
ปัจจุบันประเทศไทยได้นำมาตรการ Conditional non-host status ซึ่งเป็นกระบวนการจัดการศัตรูพืชกักกันรูปแบบใหม่มาใช้สำหรับผลผลิตมังคุดที่ส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น โดยมีองค์ประกอบ 2 ส่วนหลัก คือ 1) การจัดการแปลงปลูกมังคุดของเกษตรกรเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ และ 2) การจัดการผลผลิตในโรงคัดบรรจุ ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรได้ปรับปรุงโรงคัดบรรจุ เพื่อดำเนินการตามมาตรการ Conditional non-host status ผ่านศูนย์พัฒนาการผลิตและควบคุมศัตรูผักและผลไม้เพื่อการส่งออก กรุงเทพมหานคร ที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2532 และมีบทบาทในการควบคุม กำกับ ดูแลในการดำเนินการจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ มาตรการ Conditional non-host status ได้ถูกหยิบยกในเวทีเมื่อ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดตลาดมังคุดไทยสู่ตลาดญี่ปุ่นแบบใหม่โดยไม่ต้องอบไอน้ำ ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยลดต้นทุนการส่งออกของผู้ประกอบการ ยืดอายุ shelf life ของผลมังคุดสด สามารถขนส่งทางเรือได้อีกช่องทางหนึ่ง เอื้อประโยชน์ให้แก่เกษตรกร และผู้ประกอบการให้สามารถส่งออกมังคุดได้มากขึ้น และจากการดำเนินการร่วมกันระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร ผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้ผลผลิตมังคุดชุดแรกที่ใช้มาตรการ Conditional non-host status ผ่านการตรวจประเมินโดยเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมงของญี่ปุ่น ณ ศูนย์พัฒนาการผลิตและควบคุมศัตรูผักและผลไม้เพื่อการส่งออก กรุงเทพมหานคร และได้ส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมีแผนจะส่งออกมังคุดอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 เป็นต้นไป
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมส่งเสริมการเกษตรพร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงต้องเฝ้าติดตามมังคุดผลสด ณ ประเทศปลายทาง (ประเทศญี่ปุ่น) ถึงสภาพของผลผลิต ขั้นตอน กระบวนการ รวมทั้งปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้เพื่อนำมาแก้ไข ปรับปรุง และนำไปสู่การขยายผลให้แก่กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการในภาพรวมต่อไป