นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักเครื่องจักรกล และโครงการชลประทานทั่วประเทศ ระดมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ พร้อมเดินหน้ากำจัดวัชพืชรวมทั้งสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความสะอาดและลดปัญหาน้ำเน่าเสีย หวังเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และเก็บกักน้ำไว้ใช้ฤดูแล้งหน้า เพื่อรับมือปรากฎการณ์เอลนีโญอย่างเต็มศักยภาพ อาทิ บริเวณประตูระบายน้ำบางปลาดุก ตำบลห้วยพลู อำเภอนครชัยศรี ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง และ บริเวณประตูระบายน้ำบางเก็ง ตำบลลานตากฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม อีก 1 เครื่องและบริเวณประตูระบายน้ำเจ๊กก๊วย ตำบลห้วยพลู อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง

อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวอีกว่า สำหรับการกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ ได้นำรถแบ็คโฮและเรือนวัตกรรมกำจัดวัชพืช เพื่อลดปัญหาน้ำเน่าเสีย และรักษาระบบนิเวศ พร้อมจัดการจราจรน้ำในพื้นที่ต่างๆ อาทิ บริเวณ คลองขุดใหม่ ตำบลละหาร คลองบางบัวทอง ต.บางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง บริเวณ ปตร.กลางคลองขุนศรี ตำบลไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย และ บริเวณ คลองพระพิมล อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี, บริเวณ ตำบลคลองนกกระทุง อำเภอพุทธมณฑล บริเวณ คลองชัยขันธ์ ตำบลคลองโยง อำเภอพุทธมณฑล และ บริเวณคลองมหาสวัสดิ์ อำเภอบางกรวย จังหวัดนครปฐม, บริเวณ สถานีสูบน้ำประเวศน์บุรีรมย์ ตำบลเปร็ง บริเวณ สถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร 1 บริเวณสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร 2 และ บริเวณสถานีสูบน้ำนางหงษ์ ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ, บริเวณ คลองพระยาบรรลือ หมู่ที่ 4 ต.คลองพระยาบันลือ อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา, บริเวณ คลองส่งน้ำสายใหญ่ 1 ขวา อำเภอโพธิ์ทอง และ บริเวณ คลองส่งน้ำ 6 ซ้าย-1ขวา , 7ซ้าย-1ขวา คลองระบายใหญ่แม่น้ำน้อย 4 ตำบลม่วงเตี้ย อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง และบริเวณคลองตาหิ้น ตำบลกระแสสินธุ์ อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา


“กรมชลประทาน โดยสำนักงานเครื่องจักรกล และโครงการชลประทานทั่วประเทศ ได้ร่วมกันเตรียมความพร้อมรับมือปรากฎการณ์เอลนีโญ ด้วยการจัดหาแหล่งน้ำสำรอง ขุดลอกแหล่งน้ำ เพื่อสำรองน้ำในช่วงปลายฤดูฝนให้ได้มากที่สุด ไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึง ช่วยบรรเทาและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน หากพี่น้องประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถร้องขอไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่ หรือโทรสายด่วน กรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา” อธิบดีกรมชลประทาน กล่าว

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated