บ่ายวันนี้ (9 ก.ย. 66) ณ องค์การบริหารส่วนตำบลแควใหญ่ ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นาย ปกรณ์ สุตสุนทร ผู้เชี่ยวชาญด้านที่ปรึกษาอุทกวิทยา นายวรพจน์ เพชรนรชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 นายไพฑูรย์ ศรีมุก รองผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 พร้อมเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานนครสวรรค์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามโครงการแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่บึงบอระเพ็ด โดยมี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ เป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ มีความหลากหลายทางด้านชีวภาพทั้งพืชและสัตว์นานาชนิด ซึ่งที่ผ่านมาได้ประสบปัญหาด้านการบุกรุกพื้นที่ ปัญหาการตื้นเขินของบึงจากการสะสมของตะกอนดินและปัญหาสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม กรมชลประทาน จึงได้วางแผนหลักการพัฒนาและฟื้นฟูบึงบอระเพ็ด ดังนี้ แผนที่ 1. บริหารจัดการ / การเข้าใช้ประโยชน์ที่ดิน แผนที่ 2. การแก้ไขปัญหาภัยแล้งและสร้างความมั่นคงของน้ำแผนที่ 3. คุณภาพน้ำ ตะกอน และรักษาระบบนิเวศ และแผนที่ 4. การจัดการน้ำท่วมและบรรเทาอุทกภัย
ปัจจุบัน กรมชลประทาน ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ 5 โครงการ และโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ อาทิ 1)โครงการขุดลอกตะกอนดิน บึงบอระเพ็ด 2)โครงการขุดคลองดักตะกอน ตามแนวขอบบึงบอระเพ็ด และ3)โครงการขุดบึงบอระเพ็ด Deep Pool
หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำได้ประมาณ 21 ล้าน ลบ.ม. ทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่ในการกักเก็บน้ำของแก้มลิง เพื่อสำรองไว้ใช้ได้ในอนาคตได้อีกด้วย
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังคงปฏิบัติตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 และ 6 แนวทางอย่างเคร่งครัด รวมไปถึง ดำเนินการตามมาตรการ 3 มาตราการซึ่งทาง กอนช. กำหนดเพิ่มเติม เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอทั้งฤดูแล้ง และฤดูฝน สร้างความมั่นคงทางด้านน้ำ พร้อมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้มีปริมาณน้ำสำรองไว้ใช้ในอนาคตและสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจแก่ประชาชนทั่วไป “เพิ่มประสิทธิภาพ สร้างผลิตผล สนับสนุนให้ชุมชนมีรายได้”สืบไป