MOU 5,000 ตัน! กล้วยอีสานพร้อมผงาดในตลาดญี่ปุ่น ยึดโมเดลแปลงใหญ่สุขไพบูลย์

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมแคนทารีโคราช จังหวัดนครราชสีมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ได้นำคณะผู้ซื้อชาวญี่ปุ่นเดินทางมาบันทึกข้อตกลง (MOU) และเซ็นสัญญาซื้อกล้วยจากกลุ่มเกษตรกรอำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา ตามโควต้าที่ญี่ปุ่นให้กับไทย จำนวน 5,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าถึงกว่า 100 ล้านบาท (ชมถ่ายทอดสดพิธี MOU https://www.facebook.com/kasetkaoklai/videos/1877341146013944)

นางสาวณัฐิยา สุจินดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “พิธีในวันนี้นั้น เกิดขึ้นตามการผลักดันภายใต้นโยบายกระทรวงพาณิชย์ของรองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส โดยเน้นการรดน้ำที่รากดูแลคนตัวเล็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเกษตรกร โดยให้ใช้การทำงานเชิงรุกและบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์ รวมทั้งให้เร่งใช้ประโยขน์จากผลของการเจรจา FTA ที่มีอยู่ มาใช้ในการผลักดันให้มีปริมาณการส่งออกของสินค้าไทยสู่ตลาดโลกได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย  ซึ่งในส่วนของการส่งออกกล้วยนั้น ประเทศไทยเองก็ได้รับสิทธิประโยชน์จากกรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย – ญี่ปุ่น (JTEPA) ซึ่งยกเว้นภาษีให้กล้วยจากประเทศไทยเป็นจำนวน 8,000 ตันต่อปีอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาเราเองกลับใช้ประโยชน์ได้ไม่ถึงครึ่งของโควต้าดังกล่าว จึงเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีในการเพิ่มการส่งออกกล้วยผ่านช่องทางดังกล่าวนี้ตามนโยบายที่ได้รับมา จนในวันนี้เราก็สามารถสร้างผลลัพธ์เร่งด่วนในแบบ Quick win ได้สำเร็จภายใน 100 วัน ด้วยยอดขายได้ถึง 100 ล้านบาทเลยทีเดียว”

สำหรับที่มาของการเซ็นสัญญาสั่งซื้อกล้วยจำนวน 5,000 ตันของผู้ซื้อชาวญี่ปุ่นในครั้งนี้ นายฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ได้จับมือทำงานบูรณาการร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมาเพื่อมุ่งขยายตลาดกล้วยไทยในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ตนก็ได้นำผู้เชี่ยวชาญด้านกล้วยชาวญี่ปุ่นลงพื้นที่ไปยังจังหวัดนครราชสีมาเพื่อพัฒนาเทคนิคการปลูกให้กล้วยในพื้นที่ให้มีคุณภาพและปริมาณตามความต้องการของตลาดญี่ปุ่นโดยทันที “นอกจากนี้แล้ว ทางสำนักงานเองได้รับข้อมูลมาว่า กล้วยหอมของไทยนั้นเป็นพันธุ์กล้วยหอมทองซึ่งนอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยแล้ว ในปัจจุบัน เรายังเป็นแหล่งผลิตที่ยังคงหลงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในโลกอีกด้วย จึงได้ใช้เป็นหนึ่งในจุดขายในการทำการตลาดกับผู้นําเข้าชาวญี่ปุ่น และเมื่อได้พาคณะผู้ซื้อชาวญี่ปุ่นไปเยี่ยมชมสวนกล้วยที่ได้รับการพัฒนาและได้ลองชิมผลผลิตแล้ว ต่างก็พอใจเป็นอย่างมาก จนทำสัญญาซื้อขายในทันที ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่ากล้วยไทยจะยังสามารถขยายตลาดได้มากกว่าโควต้า 8,000 ตันต่อปีที่ไม่มีภาษีได้อีกอย่างแน่นอน” ทูตพาณิชย์ประจำประเทศญี่ปุ่น กล่าวเสริม

ในส่วนของทางจังหวัดนครราชสีมาเองนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสยาม ศิริมงคล ได้กล่าวว่า “อำเภอเสิงสางเป็นแหล่งผลิตกล้วยหอมทองที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด โดยมีพื้นที่เพาะปลูกกล้วยหอมทองถึง 1,350 ไร่ และมีปริมาณผลผลิตได้ถึง 8,100 ตันต่อปี ดังนั้น จึงเพียงพอต่อเป้าความต้องการของตลาดญี่ปุ่นในปีหน้าอย่างแน่นอน และไม่เพียงเท่านี้ ด้วยศักยภาพของเกษตรกรในจังหวัดที่ได้รับการพัฒนาและเชื่อมโยงตลาดญี่ปุ่นโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ก็ยังมีความพร้อมในการเพิ่มพื้นที่เพราะปลูกเพื่อรองรับความต้องการตลาดหากมีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย”

ทางด้าน นางสาวพิมใจ มัตสึโมโต นักธุรกิจตัวแทนชาวญี่ปุ่นที่เป็นผู้ลงนามเซ็น MOU และเซ็นสัญญาซื้อกล้วยกับคุณสมศักดิ์ แสงรัมย์ ประธานกลุ่มแปลงใหญ่กล้วยหอมทองสุขไพบูลย์ กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ที่เห็นความสำคัญในภาคการเกษตร รวมทั้งตัวแทนพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดอื่นๆที่มาร่วมงาน

นอกจากจังหวัดนครราชสีมาแล้ว ทางสํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งออกกล้วยจากภูมิภาคอื่นๆเพิ่มเติม อาทิ จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดพัทลุง  และยังเปิดกว้างสำหรับภูมิภาคอื่นๆอีกด้วย ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.ditp.go.th หรือสายด่วน 1169

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated