ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีอธิบดีกรมประมง นายบัญชา สุขแก้ว ได้เข้าประชุมแลกเปลี่ยนด้านการส่งเสริมสินค้าเกษตรร่วมกับองค์การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นครเซี่ยงไฮ้ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงระหว่างวันที่ 5 – 7 กรกฎาคม 2567 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน
นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง
นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการส่งเสริมและขยายโอกาสช่องทางการค้าสินค้าเกษตรในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นมหานครที่มีความทันสมัย และเป็นตลาดนำเข้าสินค้าเกษตรที่สำคัญของไทย เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในสินค้าเกษตรของไทยที่มีระบบการควบคุมคุณภาพที่ยอดเยี่ยม
สำหรับสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทย โดยเมื่อปี 2566 ประเทศไทยมีการส่งออกสินค้าประมงไปจีน ปริมาณ 198,196 ตัน มูลค่าสูงถึง 22,722 ล้านบาท ซึ่งเป็นสินค้าประมงทั้งแช่แข็ง พร้อมปรุง สินค้าสด อาทิ กุ้งขาวแช่เย็นจนแข็ง กุ้งกุลาดำแช่เย็นจนแข็ง หมึกกล้วยแช่เย็นจนแข็ง ปลาแช่เย็นจนแข็ง ปลาป่น ทูน่ากระป๋อง หอยลายมีชีวิต ซูริมิปรุงแต่ง และเครื่องปรุงรส ฯลฯ เมื่อเทียบปริมาณนำเข้ากับสินค้าตัวเดียวกันในปี 64 (161,385.68 ตัน) และ 65 (162,771.10 ตัน) พบมีแนวโน้มความต้องการนำเข้าสินค้าประมงจากไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวจีนมั่นใจและนิยมรับประทานสินค้าและผลิตภัณฑ์ประมงของไทย
นอกจากนี้ กรมประมง ยังเร่งผลักดันสินค้าประมงเศรษฐกิจที่น่าสนใจ และคาดว่าจะตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนอีก 3 ชนิด ได้แก่ เนื้อจระเข้แห้ง กุ้งก้ามกรามมีชีวิต และปลากะพงขาวแช่แข็ง ซึ่งสินค้าดังกล่าวนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานจีน ซึ่งจะมีการประชุมเจรจาด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชร่วมกันในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2567 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในส่วนของสินค้าปลากะพงขาวแช่แข็ง ทางรัฐบาลจีนมีกำหนดการมาตรวจระบบการเพาะเลี้ยง และการบริหารจัดการในห่วงโซ่อุปทาน ณ ประเทศไทย ในช่วงเดือนตุลาคม 2567 เพื่อยืนยันว่าระบบบริหารจัดการของประเทศไทยเป็นไปตามมาตรฐาน ปลอดภัย และมีคุณภาพ ท่านรัฐมนตรีฯ จึงได้สั่งการให้ทางทูตเกษตรเร่งประสานงานเรื่องดังกล่าว เพื่อเพิ่มช่องทางการค้าสินค้าประมงคุณภาพมายังจีนต่อไป