เกษตรกรไทยปลูกผักขายที่ญี่ปุ่นสร้างชื่อเสียงโด่งดังจนทีวีญี่ปุ่นมาถ่ายทำเรื่องราว

ในโอกาสครบรอบ 10 ปีแห่งการก่อตั้งเว็บไซต์เกษตรก้าวไกล เราได้จัดกิจกรรม เกษตรก้าวไกลLIVE in Japan ระหว่างวันที่ 3-11 ตุลาคม 2567 เพื่อไปสัมภาษณ์เกษตรญี่ปุ่น ว่า รวยจริงหรือ? และเกษตตรกรที่เราไปสัมภาษณ์ครั้งนี้มีทั้งเกษตรกรญี่ปุ่นและเกษตรกรไทย โดยเราได้พบกับ “ป๋าเทพ” หรือ คุณศตพล แห่งไร่ศตพล จังหวัดอิบารากิ ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว ซึ่งไปปักหลักอยู่ที่ญี่ปุ่นเริ่มจากอาชีพขับรถแบคโฮ แต่มีเวลาว่างก็ปลูกผักไทยกินเอง มีเหลือกินก็แบ่งให้คนอื่นๆ เพื่อนๆหรือคนที่ได้รับแจกก็บอกว่าให้ฟรีไม่ได้ จะต้องได้ค่าปุ๋ยตอบแทน จึงกลายเป็นการซื้อขายเรื่อยมา และบอกกันปากต่อปาก เริ่มจากจุดเล็กๆบนพื้นที่ของตนเอง โดยการปลูกผักกะเพราขาย ต่อมาได้ขยับขยายไปยังพื้นที่ของคนญี่ปุน ซึ่งมีที่ดินว่างเปล่าแต่ด้วยกฎหมายของญี่ปุ่นจะเก็บภาษีที่กินว่างเปล่า ทำให้เจ้าของที่ดินต้องหาผู้สนใจมาทำการเพาะปลูก และป๋าเทพก็เลยโชคดี ปลูกผักขายโดยไม่ต้อมีที่ดินเป็นของตนเอง

เขาเริ่มจากการปลูกกะเพรา ผักชี ต่อมาขยับขยายไปปลูกผักไทยประมาณ 10 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น ฟักแฟง แตงกวา ฝักทอง ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง ผักคะน้า บวบ ถั่วฟักยาว มะเขือ มะละกอส้มตำ และโดยเฉพาะพริกซุปเปอร์ฮอต ที่เป็นเมล็ดพันธุ์ตราศรแดง ปลูกกันเป็นล่ำเป็นสัน สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ จากที่ไม่กี่ตารางวากลายเป็นประมาณ 50 ไร่

“ส่วนมากผักที่ปลูกจะเป็นผักไทยยอดนิยม โดยกว่า 50% เป็นเมล็ดพันธุ์ตราศรแดง เนื่องจากมีคนนำเข้ามา หาซื้อง่าย และอัตราอกดีมาก”

“โดยที่ดินที่ปลูกนั้นจะเป็นที่ดินฟรีไม่ต้องเสียค่าเช่า เขาบอกให้เราฟรีๆ บางคนไม่รู้จักกันเลย เขาจะถามว่ายังทำไหวไหม ถ้าไหวอยากให้มาปลูกขนที่ดินของเขา คือใกลๆบ้านจะเช่าในราคาถูก แต่ไกลบ้านออกไปเขาให้เราไปปลูกฟรี แต่ต้องดูแลที่เขาให้ดี”

(รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปลูกและการขยายแปลงปลูกชมได้จากคลิป LIVEสด สัมภาษณ์ป๋าเทพ https://www.facebook.com/kasetkaoklai/videos/1051459732886536)

ในตอนท้ายป๋าเทพให้สัมภาษณ์ว่า อาชีพปลูกผักขายได้สร้างความมั่นคงให้แก่ครอบครัวเป็นอย่างมาก โดยมีภรรยา และลูกๆมาช่วยกัน และยังสร้างงานให้กับคนอื่นๆอีกหลายคน และเรื่องราวชอ

ป๋าเทพยังได้รับความสนใจจากสื่อในท้องถิ่น โดยสถานีโทรทัศน์ เอ็นเอสเค ของญี่ปุ่นเคลมาสัมภาษณ์ รวมทั้งหนังสือพิมพ์ในท้องถิ่นก็มาสัมภาษณ์ จนทำให้มหาวิทยาลัยนำนักศึกษามาดูงาน

“ผมมาอยู่ที่หมู่บ้านแห้งนี้ 10 กว่าปี ได้ออกทีวีของญี่ปุ่น จนเพื่อนในชุมชมเห็น เขาบอกว่าเขาอยู่มาเป็นเวลา 20-30 ปี ยังไม่เคยมีสื่อมาสมัภาษณ์ เพื่อบ้านในชุมชนบอกว่าผมทำชื่อเสียงให้หมู่บ้านเป็นที่รู้จัก”

อนาคตป๋าเทพบอกว่า ในปี 2568 ได้ตัดสินใจขายกิจการให้กับลูกศิษย์ที่มาฝึกงาน ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น ซึ่งมั่นใจมากว่ากิจการปลูกผักจะขายไปได้อีกมาก เนื่องจากลูกศิษย์ที่มาเซ้งต่อเป็นคนรุ่นใหม่มีความรู้เรื่องตลาดออนไลน์ น่าจะขยายตลาดไปได้อีกมาก และในส่วนของตนเองในระยะแรกก็จะเป็นพี่เลี้ยงให้กับผู้ที่มาเซ้งกิจการต่อ หลังจากนั้นก็จะปล่อยให้เขาบริหารงอย่าเต็มที่ ป๋าเทพจะค่อยๆออกมา แต่ก็จะไม่ไปไหน ยังคงปลูกผักส่งขายให้กับลูกศิษย์คนนี้ต่อไป (ชมคลิปประกอบข่าวนี้ได้-ล่างนี้

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated