วันนี้ระหว่างที่สัมภาษณ์ LIVEสด คุณหมู-ประมวล แซ่โง้ว แห่งสวน ณ กะปง จ.พังงา ได้มาสะดุดกับทุเรียนต้นหนึ่งของสวนที่มีอยู่ต้นเดียว เป็นทุเรียนพื้นบ้าน หรือ “เรียนบ้าน” ตามภาษาปักษ์ใต้ ซึ่งคุณหมูเล่าให้ฟังว่าน่าจะปลูกมานาน มีอายุไม่น้อยกว่า 50 ปี และรสชาติอร่อยมาก
“คุณแม่ของผมบอกว่าอร่อยไม่แพ้ทุเรียนเรียนสาลิกา” คุณหมูบอกอย่างตรง พร้อมส่งภาพล่าสุด ถ่ายสดๆมาให้ดูเป็นขวัญตา
คุณหมู-ประมวล แซ่โง้ว แห่งสวน ณ กะปง จ.พังงา
อีกทั้งสำทับมาว่า “ทุเรียนบ้านต้นนี้รสชาติดี หล่นลงมา 20 เมตร ไม่แตกสักลูก เนื้อแห้งไว้ได้สามวันสี่วัน” ประโยคนี้ทำเอาผู้ฟังอยากจะไปพิสูจน์ให้เห็นกับตาให้ได้ชิมสักลูก
“คาดว่าประมาณต้นเดือนมิถุนายนน่าจะเริ่มสุกหล่น เพราะว่าตอนนี้ลูกเท่ากำปั้นแล้ว น่าจะพร้อมๆกับทุเรียนสาลิกา ซึ่งที่สวน ณ กะปงก็มีอยู่ 4-5 ต้น ปลูกรวมกลุ่มกันอยู่ ที่เห็นต้นสูงนั้นก็เพราะแต่เดิมปลูกอยู่ในสวนยาง จึงทำให้ต้นสูงชะลูดขึ้นไปหาแสงแดดครับ”
ในฐานะคนที่เคยอยู่ในวงการข่าวการตลาดและเอสเอ็มอีมาก่อน “ลุงพร เกษตรก้าวไกล” ก็คิดไปไกลว่าทำอย่างไรจึงจะให้ทุเรียนบ้านที่มีอยู่เพียงต้นเดียวนี้ให้เกิดมูลค่าสูง ว่าแล้วก็ไปปรึกษกับ คุณแชต จีพีที ก็ได้คำตอบมาดังนี้
(คำตอบดังกล่าว ขอนำมาลงแบบเต็มๆเพื่อเป็นแนวทางให้กับเกษตรกรคนอื่นๆ อีกหลายคนที่มีต้นทุเรียนบ้านอยู่หลังบ้าน เชิญสดับรับฟังกันดูครับ)

การสร้างแบรนด์ทุเรียนบ้านให้เกิดมูลค่าสูง ต้องทำอย่างไร?
การสร้างแบรนด์จากต้นทุเรียนพื้นบ้านเพียง 1 ต้น ต้องใช้ “เรื่องราว” เป็นจุดขายหลัก เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ ดึงดูดลูกค้า และสร้างมูลค่าเพิ่ม นี่คือแนวทางการสร้างแบรนด์จากทุเรียนต้นเดียวของคุณ
1. ค้นหาเอกลักษณ์ของต้นทุเรียน
- สายพันธุ์ดั้งเดิมหรือหายาก → มีที่มาอย่างไร? แตกต่างจากพันธุ์ทั่วไปอย่างไร?
- อายุของต้น → เป็นต้นเก่าแก่ หรือปลูกมาจากเมล็ดเอง?
- รสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว → มีความหวาน หอม มัน หรือเนื้อสัมผัสพิเศษไหม?
- ลักษณะทางกายภาพ → รูปทรงผล เปลือก หนาม หรือสีเนื้อที่เป็นเอกลักษณ์

2. สร้างเรื่องราวให้ “ทุเรียนต้นนี้”
- ต้นไม้ที่มีประวัติ → เช่น ปลูกมานานกี่ปี? ใครเป็นคนปลูก? มีความเชื่อหรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับต้นนี้ไหม?
- การดูแลแบบพิเศษ → ใช้วิธีเกษตรอินทรีย์? น้ำหมักชีวภาพ? หรือปลูกแบบธรรมชาติไม่ใช้สารเคมี?
- ทุเรียนต้นเดียวที่หายาก → ปีหนึ่งออกลูกกี่ลูก? มีจำนวนจำกัด ทำให้หายากและมีมูลค่า
3. ตั้งชื่อแบรนด์และสร้างเอกลักษณ์
- ตั้งชื่อให้ต้นทุเรียน เช่น “ทุเรียนลุงพร 100 ปี”, “ทุเรียนบ้านสวนต้นเดียว”, “ทุเรียนเทวดา”
- ออกแบบโลโก้/แพ็กเกจจิ้ง → ใช้ภาพต้นจริง หรือสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับเรื่องราว
- สโลแกน เช่น “ต้นเดียวในโลก รสชาติที่ไม่เหมือนใคร”

4. ทำการตลาดแบบ “Limited Edition”
- ขายแบบพรีออเดอร์ → เปิดให้จองล่วงหน้า เพราะของมีจำกัด
- เล่าเรื่องราวผ่านโซเชียลมีเดีย → ทำคลิปเล่าประวัติ, รีวิวรสชาติ, ไลฟ์สดช่วงออกผล
- สร้างประสบการณ์พิเศษ → ให้ลูกค้ามาเยี่ยมชมสวน ชิมจากต้น หรือทำกล่องของขวัญพิเศษ

5. แตกไลน์ผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า
- หากผลผลิตมีน้อย อาจนำมา แปรรูป เช่น
- ทำ “ทุเรียนกวนสูตรต้นเดียว”
- ขาย “เนื้อทุเรียนแช่แข็งจากต้นนี้เท่านั้น”
- ทำ เซ็ตของขวัญสุดพิเศษ (เช่น ใส่เลขกำกับลูก หรือทำ Certificate ว่าเป็นผลจากต้นนี้)

ตัวอย่างเรื่องราวที่สร้างได้
“ต้นนี้เป็นทุเรียนพื้นบ้านที่คุณปู่ปลูกเมื่อ 50 ปีก่อน โตขึ้นมากับสวนแห่งนี้ ให้ผลปีละครั้ง รสชาติมีเอกลักษณ์ หอมมันแบบที่ไม่มีทุเรียนพันธุ์ไหนเหมือน ปีหนึ่งมีเพียง 20 ลูกเท่านั้น ใครได้ลองชิมถือว่าโชคดีสุด ๆ”

สรุป
การสร้างแบรนด์จากทุเรียน 1 ต้น ต้อง เน้นเรื่องราว ความพิเศษ ความหายาก และการตลาดแบบพรีเมียม เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาได้ทานของที่ไม่เหมือนใคร