ARDA เปิดตัวหลักสูตรน้องใหม่ “ผู้บริหารงานวิจัยและนวัตกรรมเกษตร” เสริมสกิลเครือข่ายนักวิจัย 100 คน ร่วมปั้นนวัตกรรมงานวิจัยเกษตรแห่งอนาคต
ARDA เปิดตัวหลักสูตรน้องใหม่ “ผู้บริหารงานวิจัยและนวัตกรรมเกษตร” เสริมสกิลเครือข่ายนักวิจัย 100 คน ร่วมปั้นนวัตกรรมงานวิจัยเกษตรแห่งอนาคต

สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) – ARDA จัดอบรมหลักสูตร “ผู้บริหารงานวิจัยและนวัตกรรมเกษตร” สร้างเครือข่ายผู้บริหารงานวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก ARDA ร่วมผลักดันการพัฒนาผลงานวิจัยคุณภาพที่มุ่งเน้นการนำไปต่อยอดใช้ประโยชน์ในกระบวนการผลิตภาคการเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการวิจัยให้เกิดวิสัยทัศน์ในการพัฒนางานวิจัยที่ตอบโจทย์ปัญหาภาคอุตสาหกรรมเกษตร สร้างการบูรณาการเครือข่ายและเชื่อมโยงการทำงานระหว่างผู้บริหารงานวิจัย นักวิเคราะห์ สถาบันการศึกษา หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก ARDA โดยได้รับเกียรติจากดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร เป็นประธานในพิธีเปิดและปิดหลักสูตรฯ

ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร กล่าวว่า ARDA หน่วยงานบริหารจัดการทุนในระบบ ววน. และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหลักของประเทศในการบริหารการวิจัยการเกษตรเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R & D) และการต่อยอดเทคโนโลยีด้านการเกษตรให้สามารถตอบโจทย์ตลาดโลกเพื่อปรับตัวและรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง ได้อย่างเหมาะสมและหนึ่งในปัญหาสำคัญของงานวิจัยในประเทศไทยคือ…ช่องว่างระหว่างงานวิจัยกับการพัฒนางานวิจัยให้นำไปใช้จริง..เพราะถึงแม้จะมีการพัฒนาผลงานวิจัยที่ดีมากมาย แต่หากไม่มีการบริหารจัดการที่เหมาะสม งานวิจัยเหล่านั้นก็อาจไม่สามารถต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ได้ ทาง ARDA ต้องขอขอบคุณทางสำนักงานคณะกรรมการวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ที่ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าวและให้การสนับสนุนงบประมาณ การจัดอบรมหลักสูตร ผู้บริหารงานวิจัยและนวัตกรรมเกษตร โดยจัดขึ้นภายใต้โครงการ
“การพัฒนาศักยภาพด้านการบริหารจัดการทุนวิจัยของบุคลากรวิจัยด้านเกษตรและอาหารของระบบ ววน. ซึ่งได้ออกแบบมาเพื่อรองรับการแก้ปัญหาดังกล่าวนี้โดยเฉพาะ โดยทางหลักสูตรจะเน้นการสร้างเครือข่ายงานวิจัยให้ผู้บริหารงานวิจัย นักวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย สถาบันการศึกษา ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานร่วมกับ PMU ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน และผู้เกี่ยวข้อง ได้เข้าใจแนวทางการบริหารจัดการงานวิจัย ตั้งแต่การจัดสรรทุน การบริหารงบประมาณ การวางแผนโครงการวิจัย ไปจนถึงการเชื่อมโยงผลงานวิจัยกับภาคเอกชน เพื่อให้เกิดการพัฒนางานวิจัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเพื่อที่จะนำไปใช้ประโยชน์จริงในเชิงพาณิชย์ต่อไปได้”

ด้านนายศิริศักดิ์ เปรมปิยะวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาบุคลากรภาคธุรกิจการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักสูตรนี้แบ่งการอบรมออกเป็น 2 รุ่น รุ่นละ 50 คน รวมทั้งสิ้น 100 คน โดยรุ่นที่ 1 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 14 และ 17 – 19 กุมภาพันธ์ 2568 และรุ่นที่ 2 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 7 และ 10 – 12 มีนาคม 2568โดยทางผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้แนวทางการบริหารจัดการทุนวิจัยของ ARDA และการถ่ายทอดองค์ความรู้จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงการเกษตรที่มาร่วมแลกเปลี่ยนและให้ความรู้กับผู้เข้าอบรมตลอดหลักสูตรครอบคลุมเนื้อหาสำคัญใน 5 กลุ่ม ได้แก่

  1. ทิศทางงานวิจัยภาคการเกษตร การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร และการใช้ประโยชน์งานวิจัยในธุรกิจเกษตร
  2. การปฏิรูประบบวิจัย และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อสร้างโอกาสในการบริหารงานวิจัยร่วมกัน
  3. การวางแผน การจัดการโครงการวิจัย และการเขียนบทสรุปและรายงานวิจัย
  4. การใช้เครื่องมือสมัยใหม่ในการวิเคราะห์โครงการวิจัย
  5. การทำงานเป็นทีม

ซึ่งนอกจากการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางภาคทฤษฎีแล้ว ในหลักสูตรยังมีเนื้อหาภาคการเสวนาเพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้มีโอกาสร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้มีประสบการณ์ในหัวข้อ “การแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อสร้างโอกาสในการบริหารงานวิจัยร่วมกัน” และ “ธุรกิจสำเร็จได้ด้วยงานวิจัย” โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเป็นผู้บริหารองค์กรจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

นอกจากนี้ ทางคณะผู้เข้าอบรมยังได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงานในองค์กรชั้นนำของประเทศในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาปรับใช้กับธุรกิจจนประสบความสำเร็จ อาทิ “KUBOTA FARM” อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ฟาร์มเกษตรที่ใช้เครื่องจักรกลทำเกษตรแบบครบวงจรจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ และบริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH” ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติและน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก ฯลฯ

 “ถึงแม้การลงทุน R&D เพื่อขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทย อาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก แต่หากสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประเทศไทยก็มีโอกาสก้าวขึ้นเป็นประเทศชั้นนำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีในอนาคต การอบรมหลักสูตรนี้ จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยสร้างงานวิจัยคุณภาพ และเชื่อมโยงงานวิจัยด้านการเกษตรไปขยายผลสู่ภาคเอกชนให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ซึ่งเป็นจุดแข็งของประเทศต่อไป” ดร.วชาญกล่าวในตอนท้าย

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated