เลขาฯ รมว.กษ. “อนงค์นาถ” กดปุ่มเปิดงานวันยางพาราภาคตะวันออก ปี 68 กยท.จัดอย่างยิ่งใหญ่ มุ่งรำลึกคุณูปการบิดาแห่งยางพาราภาคตะวันออก มเผยแพร่ – แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ถ่ายทอดเทคโนโลยีนวัตกรรม หวังยกระดับวัตถุดิบยางไทย สู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง พร้อมโชว์ยางล้อมอเตอร์ไซค์ ‘Greenergy Tyre’ และ มีข่าวดี ดร.เพิกเผยโมเดลเพิ่มผลผลิตเสร็จ เตรียมส่งเสริมแล้ว
วันนี้ (9 เม.ย. 2568) นางสาวอนงค์นาถ จ่าแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันยางพาราภาคตะวันออก ประจำปี 2568 ซึ่งการยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท. ได้จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมขับเคลื่อนยางพาราสู่อุตสาหกรรมภาคตะวันออก (Innovation Driving The Eastern Thailand Rubber Industry)” โดยมี ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย และผู้บริหาร กยท. ร่วมเปิดงาน ณ ลานขนถ่ายสินค้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี
ทั้งนี้ ด้วย กยท. มีเป้าหมายที่จะมุ่งเผยแพร่ และทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ถ่ายทอดเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านยางพารา หวังยกระดับวัตถุดิบยางไทย สู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง การจัดงานวันยางพาราภาคตะวันออก ประจำปี 2568 จึงจัดอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 9 – 10 เมษายน ณ ลานขนถ่ายสินค้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ต.ท่าช้าง อ.เมือง และบริเวณลานสักการะหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ โดยมีกิจกรรมไฮไลท์สำคัญ เช่น การจัดแสดงนิทรรศการ “ยางฯ คือเส้นทางชีวิต: RUBBER Is The Part Of Life” การเผยโฉมผลิตภัณฑ์ยางล้อรถมอเตอร์ไซค์ แบรนด์ “Greenergy Tyre” การลงนาม MOU ระหว่าง กยท. กับ บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด และการประกวดยางแผ่นคุณภาพดีและการแข่งขันกรีดยางระดับเขตอีกด้วย อีกทั้งยังมีการเปิดเวทีสัมมนาวิชาการนวัตกรรมขับเคลื่อนยางพาราสู่อุตสาหกรรมภาคตะวันออกเสวนา หัวข้อ “จากวิกฤตปลาหมอคางดำสู่แปลงเกษตร การใช้น้ำหมักชีวภาพและแก๊สเอทิลีนเพื่อผลผลิตที่เหนือกว่า ” และ “การขับเคลื่อนอารยเกษตรด้วยคาร์บอนเครดิต : สร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม การปาฐกถาพิเศษ “สานต่อเป้าหมาย ดันราคายางพารามูลค่าแสนล้าน ยกระดับชีวิต ชาวสวนยาง” โดย ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย เป็นต้น
นางสาวอนงค์นาถ จ่าแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังพิธีเปิดงานว่า งาน“วันยางพาราภาคตะวันออก ประจำปี 2568” ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมขับเคลื่อนยางพาราสู่อุตสาหกรรมภาคตะวันออก” ถือเป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับบริบทการพัฒนาประเทศในยุคปัจจุบัน ที่เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากฐานทรัพยากรของประเทศ ด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ยางพารา ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้กับเกษตรกร และผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ที่ได้ชื่อว่า เป็นถิ่นกำเนิดยางพาราแห่งภาคตะวันออก
“อีกทั้งเป็นการรำลึกถึงคุณูปการของหลวงราชไมตรี “บิดาแห่งยางพาราภาคตะวันออก” ผู้นำยางพาราต้นแรกมาปลูกในจังหวัดจันทบุรี ณ บริเวณเชิงเขาสระบาป ตำบลพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์ เมื่อปี พ.ศ. 2451 จากนั้นได้ขยายไปทั่วทุกพื้นที่ในภาคตะวันออก และเป็นสินค้าเกษตรที่สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่มาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ดังนั้น การนำยางพาราเข้ามาบูรณาการกับนวัตกรรมการผลิตและการแปรรูป นับเป็นโอกาสที่ดีในการยกระดับยางพาราไทย จาก “วัตถุดิบ” สู่ “ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง” และเชื่อมโยงสู่ห่วงโซ่อุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน” นางสาวอนงค์นาถ กล่าว
ขณะที่ ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดงานที่จังหวัดจันทบุรีในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมชมงาน สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาและสร้างความยั่งยืนทางอาชีพ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นต่อไป ตามเป้าหมายของศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ดร.เพิก กล่าวอีกว่า ขณะนี้ กยท. ได้กำหนดเป้าหมายที่จะเพิ่มผลผลิตต่อเนื้อที่กรีดจาก 250 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี ให้เป็น 400 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี ตามนโยบายของศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยได้จัดทำโมเดลเพิ่มผลผลิตยางเสร็จเรียบร้อยแล้ว ภายใต้แนวทางดำเนินการ อาทิ การยืดอายุการโค่นต้นยาง จากเดิมโค่นที่อายุ 25 ปี เป็น 40 ปี ด้วยการใช้เอทธิลีน ควบคู่กับการใช้น้ำหมักชีวภาพจากปลาหมอคางดำ ซึ่งช่วยบำรุงต้นยางได้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับปุ๋ยเคมี
“ส่วนผลิตภัณฑ์ยางล้อรถมอเตอร์ไซค์ แบรนด์ “Greenergy Tyre” ที่มีการเผยโฉมอย่างยิ่งใหญ่ในงานการจัดงานครั้งนี้ ถือว่า เป็นประสบความสำเร็จของวงการยางพาราไทยในรอบ 100 ปี ที่เดิมไม่เคยมีล้อยางรถเป็นของตนเอง และถือเป็นความภาคภูมิใจของเกษตรกรชาวสวนยาง อันเป็นผลจากการที่ กยท. ได้สร้างการพัฒนาร่วมกับบริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในระบบยางล้อมอเตอร์ไซด์มาเป็นหลักในการผลิต จากการใช้น้ำยางพาราจากเกษตรกรเป็นวัตถุดิบหลัก อีกทั้งยังมีการทำตลาดในรูปแบบ CSR ทำให้สามารถจำหน่ายได้ในราคาจำหน่ายต่ำกว่ายางล้อรถมอเตอร์ไซต์ยี่ห้ออื่นถึง 30 เปอร์เซ็นต์ และเป็นที่น่ายินดีว่า ยางล้อรถมอเตอร์ไซค์ แบรนด์ “Greenergy Tyre ที่ผลิตออกสู่ตลาดชุดแรกจำหน่าย 15,000 ชุด วันนี้ได้มีเจ้าของหมดแล้ว” ดร.เพิก กล่าว
