หมายเหตุ – เกษตรก้าวไกลดอทคอม : วันเสาร์ที่ 21 พ.ค. 59 ที่ มหาวิทยาลัยเกษตรฯ กำแพงแสน จะมีการจัดสัมมนา “มะพร้าวน้ำหอม โอกาสทองของเกษตรกรไทย” ปรากฏว่ามีผู้ให้ความสนใจมาก โดยเฉพาะในเรื่องของพันธุ์มะพร้าว จึงขอนำประสบการณ์ตรงของชาวสวนมานำเสนอ อนึ่ง การสัมมนาครั้งนี้ ค่าลงทะเบียน 1,000 บาท ท่านผู้สนใจ ติดต่อ โทร. 081 3090599, 089 7877373 หรือ อีเมล์ lungpornku2@gmail.com
มะพร้าวน้ำหอมมาแรงจริงๆ…วันก่อนเห็น ดร.ธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนคุยอยู่กับชาวสวนบ้านแพ้วที่นำมะพร้าวน้ำหอมมาขายในงาน “อ.ต.ก. ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” อยู่นานสองนาน
ชาวสวนคนนี้ชื่อว่า คุณจรูญ แตงสีนวล และ คุณสมบัติ อ่วมเมี่ยง สองสามีภรรยาที่ประกอบอาชีพทำสวนมะพร้าวสืบทอดจากบรรพบุรุษมานานหลายปี บ้านอยู่เลขที่ 14 หมู่ 2 ต.อำแพง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร มีพื้นที่ปลูกกว่า 20 ไร่ และบอกว่าปีนี้มะพร้าวน้ำหอมมีราคาดีมาก จากหน้าสวนลูกละ 25-27 บาท ไม่เคยปรากฏมาก่อน และที่นำมาขายในงานวันนี้ ขายลูกละ 35 บาทขาดตัว
“เวลานี้มะพร้าวน้ำหอมขายดีมาก มีคนมาติดต่อขอซื้อทุกวัน แต่เราไม่มีของให้ เพราะไม่ได้เป็นหน้าของมันและปีนี้แล้งด้วย ผลผลิตจึงลดลงจากเดิมบ้าง แต่ก็ไม่มากนัก คิดว่าที่ขายดีน่าจะเป็นเพราะตลาดต่างประเทศขยายตัว เพราะผู้ที่มาขอซื้อส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าจากโรงงาน”
จากการที่มะพร้าวน้ำหอมราคาดี ทำให้เกษตรกรหันมาสนใจปลูกมะพร้าวกันมากขึ้น ยิ่งยางพาราราคาตกต่ำ เช่นเดียวกับราคาข้าว จึงทำให้เกษตรหันมาให้ความสนใจพืชตัวอื่นๆ อย่างเช่น มะพร้าวน้ำหอม เพราะเหตุนี้พันธุ์มะพร้าวจึงขายดิบขายดีไม้แพ้ผลสดของมะพร้าว
โดยเฉพาะในย่านที่เป็นแหล่งผลิตมะพร้าวน้ำหอมขึ้นชื่ออย่างเช่นที่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร (รวมถึงย่านใกล้เคียง เช่น สมุทรสงคราม นครปฐม ราชบุรี)….จากเดิมที่ขายกันต้นละ 35 บาท หรือ 3 ต้นร้อย เวลานี้ขายต้นละ 60 บาท แต่ก็ใช่ว่าจะได้ต้นพันธุ์ทันที จะต้องรอคิวกันนานเป็นเดือน โดยเฉพาะสวนที่มีชื่อเสียงที่เน้นทำพันธุ์ขายและลงข่าวตามสื่อต่างๆ จะขายดีมาก บางรายมีคิวจองยาว เช่น จองวันนี้จะได้มะพร้าวเดือนตุลาคม หรือปลายปี
กล่าวเฉพาะในส่วนของคุณจรูญ และคุณสมบัติ ก็เป็นอีกสวนหนึ่งที่ได้ทำการเพาะขยายพันธุ์มะพร้าวขายคู่กับผลสดมาเป็นปีที่ 2 แล้ว เนื่องจากทนเสียงเรียกร้องไม่ไหว เพราะมีคนต้องการพันธุ์กันมาก
“จริงๆ แล้ว สวนของเราเองเน้นขายมะพร้าวผลสด ไม่ได้ทำพันธุ์ขายโดยตรง เพราะเป็นสวนเก่าสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ มีมะพร้าวใหญ่(มะพร้าวแกง)อยู่ด้วย กลัวว่าทำไปแล้วมันจะไม่ดี แต่ที่ทำพันธุ์ขายนั้นเป็นสวนของพี่สาวมีอยู่ประมาณ 30 ไร่ เป็นมะพร้าวน้ำหอมล้วนๆ” คุณจรุญและคุณสมบัติ เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา
ได้คุยกับ สองสามีภรรยาคู่นี้ ต้องยอมรับว่าหัวใจเป็นเกษตรกรจริงๆ พูดจาตรงไปตรงมา แถมเวลาจะตอบอะไรจะตอบตรงกันไม่ผิดเพี้ยนใดๆ แสดงถึงความจริงใจ
ถามต่อถึงเรื่องการเพาะขยายพันธุ์มะพร้าว คุณสมบัติ บอกว่าปีนี้เพิ่งขายรุ่นสุดท้ายไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในราคาต้นละ 60 บาท และมีออร์เดอร์สั่งจองไว้อีก 2,000 ต้น ซึ่งเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับสวนที่เน้นทำพันธุ์ขายโดยเฉพาะซึ่งทราบว่ามีคิวจองเป็นหมื่นๆต้น
“ของเราไม่กล้ารับจองมาก เพราะเราคงทำให้ไม่ทัน จะเน้นทำให้เฉพาะข้าราชการที่สั่งไปให้เจ้านายหรือคนที่รู้จักมักคุ้นกันเท่านั้น แต่ก็มีอยู่รายหนึ่งทางภาคใต้ เขาทำพันธุ์ยางพาราขายอยู่บอกว่าให้เราช่วยผลิตต้นพันธุ์มะพร้าวให้ได้ไหม เขาจะไปทำเป็นร้านขายแทนพันธุ์ยาง ซึ่งเราก็ได้ตอบตกลงเบื้องต้นไว้แล้ว” (เรื่องการทำพันธุ์มะพร้าวขาย คุณสมบัติ บอกว่าในบ้านแพ้วมีเกษตรกรที่เก่งหลายคน)
อันที่จริงการเพาะขยายพันธุ์มะพร้าวเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก ซึ่งที่สวนคุณสมบัติก็ทำมาโดยตลอดแต่จะทำไว้เฉพาะที่จะปลูกแซมในสวนของตนเอง
เพิ่งมาปีนี้ที่คิดว่าจะเพาะขยายพันธุ์มากขึ้นกว่าเดิม “ตอนนี้เราได้เว้นมะพร้าวไว้ 3 ร่อง เพื่อเก็บไว้ทำพันธุ์ กะว่าจะได้ชุดแรกประมาณ 2,000 ต้น ซึ่งก็จะพอกับยอดจองที่รับไว้ และรอบ 2 ก็จะทยอยตามมาอีกชุดหนึ่ง โดยจะเริ่มเพาะพันธุ์ได้ประมาณเดือนมิถุนายนนี้”
เทคนิคในการคัดเลือกมะพร้าวมาทำต้นพันธุ์ คุณสมบัติ บอกว่าจะต้องคัดเลือกผลที่สมบูรณ์ มีก้นจีบ ผลยาวเรียวเล็กน้อย และมาจากต้นที่มีลูกดกสม่ำเสมอ
“เราต้องนำมาคัดอย่างเช่นในทะลายเดียวกันมีอยู่ 10 ลูก จะคัดได้ประมาณ 7 ลูกเท่านั้น เพราะบางลูกโดนเบียดทำให้ผลลีบเล็กและบางลูกมีเปลือกหนาที่เรียกว่ามะพร้าวปากกา เราต้องคัดทิ้ง และจะต้องคัดเลือกพันธุ์จากต้นที่มีอายุไม่น้อยกว่า 15 ปี อีกทั้งผลมะพร้าวจะต้องแก่จัดเป็นสีก้ามปู(สีน้ำตาล) จึงจะใช้ได้ดี”
เคล็ดลับอย่างหนึ่งที่ไม่มักไม่บอกกัน คือ เวลาจะนำมะพร้าวลงมาจากต้นแม่จะต้องทะนุถนอมเป็นอย่างดี “เราต้องขึ้นไปเก็บ และใช้เชือกผูกทะลาย แล้วค่อยๆหย่อนลงมา ไม่นั้นจะทำให้จาวมะพร้าวที่อยู่ข้างในลูกแตกหลุดได้”
เมื่อคัดมะพร้าวไว้แล้ว ให้ใช้มีดปาดที่ด้านบนแบบเฉียงๆไปครึ่งหนึ่ง เหตุที่ปาดก็เพื่อให้น้ำซึมลงไปในเปลือกมะพร้าวเพื่อสร้างความชุ่มชื้นและจะทำให้มะพร้าวแทงหน่อได้เร็วขึ้น (การปาดนั้นต้องใช้มีดที่คมกริบ ป้องกันไม่ให้กระทบกระเทือนมาก)
แค่นั้นดูจะเป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่ใครๆก็รู้แล้ว แต่สำหรับคุณสมบัติและคุณจรูญ ยังให้ข้อมูลลับเฉพาะตามสูตรของคนบ้านแพ้วอีกว่า “หลังจากปาดเสร็จให้นำไปแช่น้ำไว้สัก 2-3 วัน เพื่อบ่มความชื้นให้ได้ที่ และนำขึ้นมาเรียงในพื้นที่ราบใต้ต้นมะพร้าวที่มีแสงแดดร่ำไร จากนั้นให้นำขุยมะพร้าวมาโรยให้เกือบมิด และหมั่นรดน้ำให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ”
นอกจากขุยมะพร้าวแล้ว วัสุดุปลูกอย่างอื่นที่คิดว่ามีความเหมาะสม คือขี้เถ้าแกลบ ตามความรู้สึกของเจ้าของสวนมะพร้าวรายนี้ดูเหมือนว่าจะให้น้ำหนักกับวัสดุปลูกอย่างหลังมากกว่า
เรื่องใส่ปุ๋ยบำรุงไม่ต้องใส่ใดๆ แต่ถ้าจะโรยด้วยปุ๋ยสูตรเสมอ 16 ก็ไม่ผิดกติกา ซึ่งสวนที่เน้นทำต้นพันธุ์ขายก็จะบำรุงเต็มที่ เพื่อให้ต้นสมบูรณ์มีใบสีเขียวสวย
เมื่อปลูกไปประมาณ 3-4 สัปดาห์ มะพร้าวก็จะเริ่มแทงหน่ออกมา พอประมาณ 1 ½ เดือนก็เริ่มเห็นชัดเจน และประมาณ 2 เดือน ก็แตก 2-3 ใบ ซึ่งนั่นหมายถึงว่าเริ่มนำไปปลูกหรือขายได้แล้ว
“ประมาณ 2-3 เดือนก็จะพอดีที่จะนำไปปลูกได้ ซึ่งจะมีหน่อยาวประมาณ 1 ฟุต ถ้ามากกว่านั้นก็ได้เหมือนกัน แต่อาจจะต้องตัดราก ซึ่งจะทำให้ต้นเฉาและตายได้หากดูแลไม่ดี”
ถามว่าเพาะพันธุ์ 100 ต้น ออกหน่อทุกต้นหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่า ติดเกือบทุกต้น มีไม่ออกหน่อประมาณ 10 ต้นเท่านั้น แต่ต้องเพาะพันธุ์หน้าฝนและคัดเลือกมะพร้าวให้ดีจริงๆ
อีกเรื่องหนึ่งที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้สนใจที่กำลังเล็งๆว่าจะปลูกมะพร้าวน้ำหอม คือ เวลาซื้อจะต้องคัดเลือกต้นพันธุ์ที่เพาะไว้อย่างไร จึงจะรู้ว่าเป็นมะพร้าวน้ำหอมของแท้ ก็ได้รับคำตอบว่า
“คนที่ซื้อมักเลือกต้นที่อ้วนโตไว้ก่อน แต่จริงๆแล้วไม่เสมอไป จะต้องดูเรื่องลักษณะผลเป็นหลักตามที่บอกตอนแรกคือก้นจีบลูกเล็กเรียว ซึ่งบางทีก็คล้ายๆกับมะพร้าวแกงที่เป็นมะพร้าวปี ซึ่งจะมีลูกเล็กเหมือนกัน แต่ลูกจะป้อมๆกว่า และต้องดูใบที่เป็นแฉกๆเหมือนหางปลา (บางคนก็บอกว่าเหมือนหางไก่แจ้) มีใบออกมาประมาณ 2-3 ใบ และก้านใบเป็นสีเขียวจึงจะดี(ไม่ใช่สีแดง) อย่าเลือกที่ใบลู่ขึ้นตรง และที่เขาบอกว่าเปลือกของมะพร้าวที่แทงหน่ออ่อนออกมาแล้วจะมีเปลือกย่นๆ ตรงนี้ก็เป็นความเชื่ออีกอย่างหนึ่ง”
ที่มีบางคนบอกว่าจะต้องดมดูรากละ เป็นอย่างไร?
“เรื่องดมรากหรือนำรากมาขยี้แล้วดม(กลิ่นหอมคล้ายใบเตย)มันก็ได้เหมือนกัน แต่จะดมได้ทุกต้นหรือและบางทีมือเราดมต้นหนึ่งพอต้นอื่นมันก็หอมเหมือนกันหมด มันก็ไม่ได้อยู่ดี”
อีกคำถามก่อนจากกัน ถามว่า อาชีพทำสวนมะพร้าวน้ำหอมมีความยั่งยืนอย่างไร ก็ได้รับคำตอบมาทันทีทันควันว่า
“ก็รวยละซิ…แต่ก็ไม่ต้องปลูกเยอะนะ แค่ 5 ไร่ก็พอ เอาแค่พอเพียงก่อน ถ้าอยู่ได้แล้วค่อยขยาย แต่ต้องดูแลให้ดีนะ ไม่ใช่ปลูกทิ้งๆขว้างๆให้เทวดาเลี้ยง เทวดาเดี่ยวนี้ไม่มีเวลาหรอก” (พูดพลางหัวเราะชอบใจ)
สรุปว่า ทุกวันนี้ครอบครัวคุณจรูญและคุณสมบัติ และลูกๆ อีก 3 คน ดำรงชีพอยู่ด้วยรายได้จากการขายมะพร้าวน้ำหอมผลสด โดยจะแบ่งหน้าที่กันทำ คือลูกชายคนโตทำหน้าที่ขับรถส่งมะพร้าวไปให้ตามที่ลูกค้าสั่ง เช่น ส่งประจำที่ตลาด อ.ต.ก.ฯลฯ ลูกคนที่สองเป็นผู้หญิงทำหน้าที่ควั่นมะพร้าวและบรรจุใส่ถุง และลูกชายคนเล็กทำหน้าที่เก็บมะพร้าวที่พี่ชายคุณสมบัติเป็นผู้คัดและตัดจากต้น ส่วนตนเองกับคุณจรูญ สามี จะเดินสายขายมะพร้าวผลสดตามตลาดนัดหน่วยงานราชการเป็นด้านหลัก เช่น วันจันทร์ตลาดนัดกรมส่งเสริมการเกษตร วันอังคารตลาดนัดกรมส่งเสริมสหกรณ์ วันพฤหัสฯที่กระทรวงเกษตรฯ วันศุกร์ที่กระทรวงแรงงานฯ ฯลฯ นอกจากนี้ ยังออกบูธตามงานต่างๆ ในนามกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านสวนหลวง ต.อำแพง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร
มาถึงตรงนี้ ใครอยากพูดคุยหรือสอบถามเพิ่มเติมก็โทร.ไปได้ที่เบอร์ 086 1752712 แต่ก็นั่นแหละถามดูก่อนว่ากำลังขายอยู่ที่ไหน ยุ่งอยู่หรือเปล่า…รับรองว่าคุยได้คุยดี ไม่มีการค้าใดๆ สบายใจได้ครับ
ข้อคิดปิดท้าย : การเลือกพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมเป็นภูมิปัญญาอย่างหนึ่ง ไม่ได้มีความถูกต้อง 100% ซึ่งทางคุณสมบัติเองที่ว่าเซียนก็ถูกหลอกมาแล้ว กล่าวคือเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ได้ไปซื้อมะพร้าวน้ำหอมกะทิ จากงานที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ฯ มา 1 ต้น ราคา 800 บาท ปรากฎว่าตั้งแต่ปลูกมาไม่เคยมีเค้าว่าจะออกลูก จึงได้ตัดสินใจโค่นต้นทิ้งไปแล้ว…