ข่าว เกษตรก้าวไกล-ไประยองเที่ยวนี้ กับ “ฟอร์ด เรนเจอร์ แกร่ง…ทุกงานเกษตร” คุ้มค่าคุ้มราคาจริงๆ เพราะว่าได้พบกับ “เกษตรกรแกร่ง-สุเทพ จรูญชนม์” วัย 54 ปี เจ้าของสวนทุเรียน 120 ไร่ แห่งตำบลพลงตาเอี่ยม อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง
พื้นเพคุณสุเทพ เป็นคนจังหวัดปทุมธานี แต่มาได้ดิบดีที่ระยองนั้น ไม่ได้โชคช่วยแต่อย่างใด หากแต่ต้องทุ่มเทการทำงานอย่างหนัก ในฐานะเขยระยองฮิต้องพลิกชีวิตจากลูกเกษตรกรชาวนามาลุยทำสวนปลูกพืชผลมาหลายชนิด สุดท้ายมาลงตัวที่ทุเรียน…
“ผมมีทรัพย์สินเงินทองทุกวันนี้ก็มาจากทำสวนทุเรียนนี้แหละ…” คุณสุเทพ เริ่มทำสวนอย่างจริงจังเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ตั้งแต่มาอยู่ระยองใหม่ๆ เริ่มจากทำสวนบนที่ดินของภรรยาที่พ่อตาจัดสรรให้มา และต่อมาขยับขยายมาซื้อที่ดินเพิ่มด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง
จาก 5 ไร่ กลายมาเป็น 10 ไร่ 20 ไร่…มีทั้งหมด 5 แปลง รวมเบ็ดเสร็จที่ปลูกทุเรียน จำนวน 120 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลเดียวกันไม่ไกลจากบ้านเท่าไร ทำให้สามารถมีเวลาวิ่งไปดูสวนได้ทัน และยังมีที่ดินที่อยู่ในเขต อำเภอเขาชะเมา (ระยอง) และอำเภอแก่งหางแมว (จันทบุรี) รวม 150 ไร่ ทั้งหมดปลูกยางพารา และสับปะรดตราดสีทอง แต่ตอนนี้ตัดสินใจโค่นยางพาราและเลิกปลูกสับปะรด เพราะราคาตก โดยเฉพาะยางพารากู่ไม่กลับสักที
กล่าถึงยางพาราแล้ว คุณสุเทพบอกว่าทุ่มเทไปมากเหมือนกัน เพราะว่าสมัยที่ราคาดีกิโลกรัมละ 100 กว่าบาท เป็นช่วงที่เฟื่องฟูมากๆ “ขายทุเรียน 4 กิโลกรัม ยังไม่เท่าขายขี้ยาง 1 กิโลกรัมเลย” และบอกว่า “แต่แล้วยางก็ค่อยๆราคาตกต่ำ จนเอาไว้ไม่ไหว”
สำหรับการปลูกทุเรียนนั้น เป็นการทำสวนผลไม้ที่ “รักเดียวใจเดียว” คือทำสวนทุเรียนก็ทุเรียนแยกจากสวนอื่นๆอย่างเด็ดขาด ไม่มีการเอาพืชโน้นพืชนี้มาปลูกแซม แม้ในช่วงที่ราคาทุเรียนตกต่ำ “คนเขาโค่นทุเรียน แต่ผมไม่เคยโค่น มีแต่ปลูกเพิ่มขึ้น” ชนิดที่ว่าสวนทุเรียนใครขายถ้าอยู่ไม่ไกลกันก็ซื้อเพิ่ม…
แต่ก็มีอยู่ช่วงหนึ่งเกือบจะโค่นทิ้งอยู่เหมือนกัน “มีอยู่บางช่วงที่ราคาทุเรียนตกต่ำมากๆ สมัยนั้นเป็นทุเรียนชะนี ราคาจากสวนกิโลกรัมละ 4-5 บาท ผมต้องตัดสินใจนำพันธุ์หมอนทองมาเสียบยอดก็พอช่วยให้ผ่านวิกฤตไปได้บ้าง”
การทำสวนทุเรียนของคุณสุเทพ ได้รับผลดีสุดๆเมื่อได้หันมาทำนอกฤดู “ผมเริ่มทำทุเรียนนอกฤดูมาประมาณ 20 ปีแล้ว…จังหวะของผมมันดี ทำนอกฤดูปีแรกก็สำเร็จเลย และก็ทำแบบนี้มาโดยตลอด เพราะว่าขายทุเรียนได้ราคาดีกว่ากัน แม้ว่าผลผลิตจะต่ำกว่าในฤดู แต่เมื่อคำนวณแล้วขายได้ราคาคุ้มกว่ากัน”
วันที่ไปเยี่ยมชมสวนทุกเรียนของคุณสุเทพ ซึ่งเป็นสวนที่อยู่ข้างบ้านจำนวน 5 ไร่ สวนแห่งนี้เป็นสวนที่พ่อตาจัดสรรที่ดินมาให้ ได้ปลูกทุเรียนหมอนทองอายุ 25 ปีแล้ว สังเกตดูแต่ละต้นยังแข็งแรง แม้ว่าผ่านการทำนอกฤดูมาหลายฤดูกาล และแหงนมองบนต้นยังมีทุเรียนอยู่ประปราย ซึ่งคุณสุเทพบอกว่า ได้เก็บผลผลิตชุดใหญ่ไป 1 รุ่นแล้ว
“การทำทุเรียนนอกฤดูของผมจะทำให้ผลผลิตออกช่วงเดือนมีนาคมต่อเนื่องถึงต้นเดือนเมษายน…ถ้าเป็นทุเรียนในฤดูจะเก็บผลผลิตช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม”
เหตุผลที่ทุเรียนราคาดีในปีนี้ (ออกจากสวนเฉลี่ยกิโลกรัมละ 80 บาท) ในความรู้สึกของคุณสุเทพ เป็นเพราะทุเรียนทยอยกันออก ไม่มาจุกตัวออกพร้อมๆกัน ทำให้เวลาในการขายผลผลิตนานขึ้น และทุเรียนไทยเริ่มมีการควบคุมคุณภาพมากขึ้น ไม่มีข่าวตัดทุเรียนอ่อนเหมือนที่มีเคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ (มีบ้างแต่ไม่มากนัก)
ได้ถามคุณสุเทพว่า กรณีที่เวลานี้มีการปลูกทุเรียนกันมาก จะทำให้ล้นตลาดหรือไม่ ตอบว่า “ผมก็ห่วงเหมือนกันนะเวลานี้ ยิ่งรัฐบาลส่งเสริมให้โค่นยางพาราเพื่อให้ปลูกพืชชนิดอื่นๆ ทราบว่าหันมาปลูกทุเรียนกันเยอะมาก…จริงๆก็ไม่อยากให้เกษตรกรมือใหม่คิดอย่างนี้ แห่กันมาปลูก (ทุกพืชทุกอาชีพทำให้ดีก็มีรายได้-คุณสุเทพว่า) อย่างทุเรียนนั้นไม่ใช่ว่าจะปลูกได้ผลดีทุกพื้นที่ มันต้องดูด้วยว่าพื้นที่ของเรามันเหมาะไหม ปลูกไปแล้วตลาดอยู่ตรงไหน จะไปแข่งกับเขาได้ไหม อย่างที่จันทบุรีก็โค่นยางกันเยอะ แต่ดีหน่อยที่ว่าเขาไปปลูกเงาะสีทองกัน เพราะคนจีนชอบมาก แต่ที่อื่นๆ ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ มันไม่ได้ง่ายนะ”
“การปลูกทุเรียนจะต้องเรียนรู้อย่างจริงจัง ต้องหาผู้รู้ ไปศึกษาจากผู้รู้ ปีหนึ่งๆต้องหาเวลาไปดูสวนที่เขาประสบความสำเร็จ ไปดูวิธีบริหารจัดการของเขา ไปดูว่าสวนของเราทำได้ดีหรือยัง มีอะไรที่จะนำมาปรับใช้ให้ดียิ่งขึ้น เราต้องไม่ปิดกั้นโอกาสที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่ดีกว่า…ถ้าทำได้อย่างนี้ความผิดพลาดก็จะน้อย”
สำหรับการทำทุเรียนนนอกฤดู คุณสุเทพบอกว่าจะต้องเตรียมความพร้อมพอสมควร “ต้องขยัน บวกเก่ง บวกเฮง” ต้องรู้ต้องเข้าใจว่าทุเรียนชอบหรือไม่ชอบอะไร สภาพแวดล้อมมีความเหมาะสมหรือไม่ เช่น อายุทุเรียนที่เหมาะต้องอายุ 5 ปีขึ้นไป ยิ่ง 7 ปียิ่งดี และต้องดูว่าขนาดต้น ความสมบูรณ์ของต้นมีมากน้อยแค่ไหน…(เรื่องทุเรียนนอกฤดู ดูเพิ่มจากคลิป https://www.youtube.com/watch?v=NELW3SQ6YGo&feature=youtu.be) และแน่นอนว่าต้นทุนการทำจะสูงกว่าทุเรียนในฤดู เช่น ทุเรียนในฤดูต้นทุนต่อกิโลกรัม 10 กว่าบาท ในขณะที่ทำนอกฤดูต้นทุน 20 กว่าบาท
มาถึงคำถามปิดท้าย ถามคุณสุเทพว่า ทำสวนทุเรียนมีรายได้ดีแค่ไหน ที่ขายไปครั้งล่าสุดมียอดรายได้อย่างไร ได้รับคำตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ขายออกจากจากสวนครั้งล่าสุดเฉลี่ยกิโลกรัมละ 80 บาท ขายได้ทั้งหมด 130 ตัน เป็นเงินประมาณ 10 กว่าล้านบาท”
คำตอบดังกล่าว ผู้ถามไม่ได้เจาะไปว่า สวนไหนผลผลิตกี่ตัน เป็นเงินเท่าไร แต่สังเกตจากสีหน้าของคุณสุเทพ ยิ้มแย้มแจ่มใสกับผลลัพธ์ที่ได้ยิ่งนัก และเมื่อแหงนไปมองที่ต้นทุเรียนในสวนยังคงมีคาต้นอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งคุณสุเทพบอกว่าที่เห็นเหลือเป็นส่วนน้อยแล้ว แต่คำนวณดูก็น่าจะขายได้อีกเป็นล้านบาท
และสิ่งที่ยืนยันว่าทำสวนทุเรียนประสบความสำเร็จก็ได้รับเสียงกระซิบบอกก่อนจากกันว่า…สวนยางพาราที่เขาชะเมาและแก่งหางแมว พื้นที่บางส่วนที่ใกล้แหล่งน้ำกำลังจะกลายเป็นสวนทุเรียน แต่คราวนี้จะปลูกพันธุ์กระดุม เพราะว่าสามารถทำน้ำหนักลูกละ 3-4 กิโลกรัม สิ่งสำคัญปลูกง่าย ดูแลง่ายกว่าหมอนทอง และส่งออกดีมาก (คนฮ่องกง และจีนนิยมมาก) จากสวนกิโลกรัมละ 130 บาท เพราะผลผลิตมีน้อยมีคนปลูกน้อย และที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งพันธุ์กระดุมเป็นทุเรียนเบาเก็บผลิตหลังติดผลเพียง 90 วัน (หมอนทอง 120 วัน) นั่นคือได้ขายก่อนหมอนทอง จึงมีราคาดีกว่า แต่ข้อจำกัดของกระดุมคือต้องรีบแต่งดอก แต่งผลให้เร็ว เพราะว่าติดผลง่าย พอผลขนาดหัวแม่โป้งต้องรีบตัดแต่งผลทิ้งออกไปบ้าง ไม่งั้นจะติดผลมากจะทำให้ผลผลิตไม่สมบูรณ์ได้
สรุปว่า กว่าจะเป็น “เทพทุเรียน” (มาจากชื่อสุเทพ) ต้องเก่งบวกเฮง ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกคน…คนที่ทำจริง(เรียนรู้จริง)เท่านั้น!…จึงจะสำเร็จได้
ขอบคุณ : ฟอร์ด เรนเจอร์ “แกร่งทุกงานเกษตร” พาหนะที่นำพาให้ผู้เขียนมาพบกับ “เกษตรกรแกร่ง” พบกับเรื่องราวดีๆจากฟอร์ด เรนเจอร์ ที่จะนำมาเสนออย่างต่อเนื่อง…โปรดติดตามครับ