“ห้วยฮ้องไคร้ เปิดตัวงานวิจัยสุดเจ๋ง ปลูกข้าวจากตอซัง พันธุ์สันป่าตอง11 สำเร็จครั้งแรกของโลก ได้พันธุ์ข้าวบริสุทธิ์ 95% ใช้ตอปลูกต่อ4 รอบต่อปี ลดต้นทุนปลูก120 วัน พร้อมเผย ปลูกมะนาว แบบไฮรโดโพนิกส์ ไ้ด้ผลสุดเลิศเพียงปีเดียวออกลูกได้แล้ว”
นายจานุวัตร เลิศศิลป์เจริญ ผอ.สำนักงานชลประทานที่1 จ.เชียงใหม่ เปิดเผยระหว่างนำสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ว่าพระองค์ทรงให้ใช้พื้นที่บริเวณป่าขุนแม่กวง กว่า8,500 ไร่ พลิกฟื้นจากสภาพป่าเต็งรังหลังจากหมดสัมปทานตัดไม้ เหลือสภาพดินเสื่อมโทรมแห้งแล้งรุนแรง ให้เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ โดยวิสัยทัศน์การพัฒนาคือ ต้นทางเป็นป่าไม้ ปลายทางเป็นประมง ระหว่างทางเป็นเกษตรอุตสาหกรรม รวมทั้งการตลาด ในช่วง35 ปีที่ผ่านมาได้พลิกฟื้นป่าให้คืนความอุดมสมบูรณ์ ด้วยการพัฒนาป่าไม้ 3 วิธี คือ การพัฒนาป่าด้วยระบบคลองไส้ไก่ – คูคลองก้างปลา การพัฒนาป่าด้วยระบบฝายต้นน้ำลำธาร และการพัฒนาป่าด้วยระบบน้ำฝนตามธรรมชาติ แก้ปัญหาน้ำป่าหลากท่วมเขตเมือง สำหรับระบบบริหารจัดการของศูนย์ฯทรงพระราชทานให้ศูนย์ฯ ช่วยให้เกษตรกรได้รับความสะดวก ประหยัดทั้งเวลา ค่าใช้จ่าย ให้เป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) ดังพระราชดำริว่า
ให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ทำหน้าที่เสมือน พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต หรือสรุปผลการพัฒนาที่ประชาชนจะเข้าไปเรียนรู้และนำไปปฏิบัติได้จริงและนำผลสำเร็จของงานวิจัยกว่า 250 เรื่อง มาขยายผลให้แก่เกษตรกรและบุคคลทั่วไป จำนวน 23 หลักสูตร ได้ดำเนินชีวิตตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ด้าน นายนพดล โค้วสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายวิชาการศูนย์ฯห้วยฮ้องไคร้ กล่าวว่ามีการขยายผลโครงการพระราชดำริ ได้วิจัยขยายพันธุ์ข้าวโดยใช้ตอซังได้ประสบสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก พร้อมนำออกเผยแพร่ นำข้าวพันธุ์พื้นเมืองเดิม พันธุ์สันป่าตอง 1 ที่เกี่ยวแล้วเหลือตอซังประมาณ 5 ซม.แล้วให้น้ำต่อจะได้ต้นข้าวออกใหม่ ไม่ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูก จะไม่เหมือนข้าวล้มต่อ ทำให้ได้ความบริสุทธิ์เมล็ดพันธุ์ สูงกว่า95% ทั้งหมดในรอบต่อไปดีกว่าปลูกนาปรังและนาปีเพราะประหยัดต้นทุนได้120 วัน ใน1 ปีปลูกได้ถึง4 รอบ มีปริมาณผลผลิตดี 650-700 กก.ต่อไร่ โดยกำลังทดลองพันธุ์ข้าวหอมปทุมธานี 1 ด้วย นอกจากนี้ยังทดลองปลูกไม้ผลด้วยระบบไฮโดโพนิกส์ ไม่ต้องใช้ดิน ได้สำเร็จ สามารถเร่งออกดอกได้เร็วขึ้นเช่นมะนาว ในปีแรกให้ออกผลได้ รวมทั้งองุ่น แคนตาลูป ซึ่งผลสำเร็จนี้เผยแพร่สู่สาธารณชนนับเป็นก้าวใหม่ของศูนย์///