สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย ยกขบวนสุดยอดกาแฟและชาหลากหลายแบรนด์ดังจากจังหวัดเชียงราย โชว์ศักยภาพกาแฟระดับโลก จากแหล่งปลูกที่ดีที่สุดของไทย ส่งตรงถึงผู้บริโภคใจกลางกรุงในงาน Chaing Rai ASEAN Coffee&Tea 2018 ระหว่าง 21-23 กันยายน 2561 ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์
นายสำราญ สาราบรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ประธานในพิธีเปิดงาน Chaing Rai ASEAN Coffee&Tea 2018 … งานแสดงศักยภาพของกาแฟและชาจากจังหวัดเชียงราย ณ ชั้น 5 ศูนย์การค้า
ดิ เอ็มควอเทียร์ ช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 กันยายน 2561 เปิดเผยถึงการผลิตพืชกาแฟและชาของจังหวัดเชียงรายว่า กาแฟและชาถือเป็นพืชเศรษฐกิจและเป็นพืชยุทธศาสตร์ที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย
ซึ่งปัจจุบันมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในระดับโลก โดยผลผลิตและแหล่งผลิตกาแฟของจังหวัดเชียงรายนั้นถือว่ามีเอกลักษณ์และมีความโดดเด่น ด้วยพื้นที่ปลูกกาแฟของจังหวัดเชียงรายนั้น ตั้งอยู่ในระดับความสูงที่เหมาะสม และยังอยู่ในภูมิประเทศเขตร้อน ในแนวที่เรียกว่า “Bean Belt” หรือ “เข็มขัดกาแฟ” ซึ่งถือเป็นบริเวณที่มีความเหมาะสมต่อการปลูกพืชกาแฟมากที่สุดของโลก ทำให้ผลผลิตกาแฟอะราบิก้าของจังหวัดเชียงรายมีคุณภาพสูงและมีเอกลักษณ์ด้านรสชาติ ซึ่งการจัดงาน Chiang Rai ASEAN Coffee&Tea 2018 ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็น
ตลาดใหญ่ที่สุดของการบริโภคกาแฟและชาในประเทศไทยนั้น ถือเป็นการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมด้านการตลาดกาแฟและชาเชียงรายสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยคาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคกาแฟชาวกรุงและนักท่องเที่ยวในย่านดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
ด้าน นายสุขชัย เจรียงประเสริฐ เกษตรจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงศักยภาพการปลูกกาแฟของจังหวัดเชียงรายว่า ปัจจุบันจังหวัดเชียงรายถือเป็นแหล่งปลูกชาและกาแฟพันธุ์อะราบิก้าที่สำคัญที่สุดของไทย โดยมีพื้นที่ปลูกกาแฟอะราบิก้ามากที่สุดในประเทศประมาณ 38,000 ไร่ ผลผลิตประมาณ 4,355 ตัน และมีพื้นที่เพาะปลูกชาประมาณ 53,436 ไร่ ผลผลิตประมาณ 32,010 ตัน สำหรับพื้นที่ปลูกกาแฟของจังหวัดเชียงรายนั้น ถือว่ามีจุดเด่นที่เป็นข้อได้เปรียบแหล่งปลูกอื่นๆ ของไทย คือ ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม ประกอบกับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟของจังหวัดเชียงรายเองก็ได้รับการส่งเสริมทั้งด้านการปลูก การแปรรูป และการตลาดจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง จนมีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการปลูกและการผลิตกาแฟอย่างครบวงจร จาก Farm to Green Coffee Beans ส่งผลทำให้กาแฟของจังหวัดเชียงราย มีคุณภาพสูง และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ มีกลิ่นหอม มีรสชาติกลมกล่อม เจือรสเปรี้ยวนิดๆ ดื่มแล้วรู้สึกชุ่มคอ และมีปริมาณสารคาเฟอีนต่ำ ซึ่งต่างจากกาแฟในแหล่งอื่นๆ และด้วยเอกลักษณ์ด้านรสชาตินี้เองที่ทำให้กาแฟดอยช้างและกาแฟดอยตุง ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็นพืชสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ และสหภาพยุโรป เป็นแห่งแรกของไทย
สำหรับไฮไลท์ของกิจกรรมในงานครั้งนี้ นอกจากจะมีการนำ 5 สุดยอดผลิตภัณฑ์กาแฟและชาของจังหวัดเชียงรายมาให้ทดสอบชิมรสชาติกันฟรีแล้ว ยังมี 5 สุดยอดกาแฟของโลกจากแหล่งปลูก Bean Belt ได้แก่ เอธิโอเปีย เคนยา ปานามา แทนซาเนีย และอินโดนีเซีย มาให้ทดสอบรสชาติกันด้วย และยังมีกิจกรรมการชิมชา 1,000 ปี รูปแบบเมนูชาฟิวชั่น หนึ่งเดียวในประเทศไทย พลาดไม่ได้กับกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการฟรี ทั้งการสาธิตให้ความรู้เรื่องการคั่วกาแฟ พร้อมการชงกาแฟและชารูปแบบต่างๆ รวมไปถึงเมนูโกโก้ที่กำลังเป็นที่นิยมด้วย นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการให้ความรู้ และกิจกรรมส่งเสริมด้านการตลาดอีกมากมาย นับเป็นโอกาสดีที่ผู้ชื่นชอบกาแฟและชาจะได้มาทดสอบและสัมผัสรสชาติกาแฟเชียงราย กาแฟระดับโลก อย่างใกล้ชิด
การจัดงาน Chiang Rai ASEAN Coffee & Tea 2018 ยังเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและ พระราชกรณียกิจด้านการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ที่ได้พระราชทานพระราชดำริให้ส่งเสริมการปลูกกาแฟ และพระราชทานต้นกาแฟต้นแรกให้ชาวเขาได้นำไปปลูก
จนแพร่กระจายไปทั่วภาคเหนือ สร้างความมั่นคงในอาชีพแก่ราษฎรชาวเขามาจนปัจจุบัน และยังเป็นการเทิดพระเกียรติ พร้อมสืบสานพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่ทรงให้ส่งเสริมการปลูกกาแฟในป่าชุมชน เพื่อสร้างรายได้แก่ราษฎรชาวเขาในพื้นที่ป่าต้นน้ำ ลดปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าและการทำไร่เลื่อนลอยอีกด้วย
งาน Chiangrai ASEAN Coffee & Tea 2018 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 กันยายน 2561 ณ Helix Garden ชั้น 5 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ (สถานี BTS พร้อมพงศ์)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย โทร. 0-5315-2685
