เรื่อง : จตุพล ยอดวงศ์พะเนา
ข่าว ธ.ก.ส. เกษตรก้าวไกล—ผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) จังหวัดปทุมธานี พาทีมข่าว “เกษตรก้าวไกล” ไปชมสวนกล้วยของคุณปราณี เหมเชื้อ เกษตรกรคนเก่ง หัวขบวนของธ.ก.ส. สร้างสวนอยู่ที่ ต.นพรัตน์ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี จากสวนกล้วยเพียง 5 ไร่ ปัจจุบันขยายแปลงปลูกไปกว่า 200 ไร่ ทั้งส่งห้างสรรพสินค้าและส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น
คุณปราณี กล่าวว่าที่สวนปลูกทั้งกล้วยหอมทอง กล้วยน้ำว้า และกล้วยหอมเตี้ย มีสวนอยู่ 2 ฝั่งถนน ซึ่งหลายคนอาจจะมีปัญหากล้วยราคาตกต่ำ แต่ที่สวนคุณปราณีไม่มีปัญหานี้ เพราะว่าปลูกกล้วยได้คุณภาพนั่นเอง โดยเฉพาะกล้วยหอมทองที่ได้ขยายแปลงปลูกตามความต้องการของตลาด เริ่มแรกก่อนปลูกต้องรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ที่ทำใช้เอง หลังจากนั้น 10 วัน ก็ใส่ปุ๋ยยูเรียเร่งให้แตกกอ กล้วยก็จะขึ้นสม่ำเสมอสวยงาม ง่ายต่อการบริหารจัดการ ไม่ต้องซ่อม และทุก 20 วัน ก็จะเปลี่ยนสูตร 25-7-7 พอกล้วยอายุ 2-3 เดือน ก็จะใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 นอกจากนี้เราจะโกยเลนจากท้องร่องมาไว้ที่โคนต้น กล้วยจะแตกกองอกงามดี เลนถือว่าเป็นอาหารชั้นดี
“กล้วยได้กินเลนกาบจะอ้าออกมา เมื่ออายุ 4 เดือนกล้วยจะเริ่มเป็นสาว เราจะใส่ปุ๋ยขี้หมู ขี้ไก่ เพื่อเตรียมให้เขาตั้งท้อง เขาเตรียมตั้งท้องก็เหมือนคุณแม่ ต้องบำรุงดีๆ กล้วยจะให้หวีเยอะ ขั้นต่ำ 5 หวี สูงสุด 7 หวี ต้องมีความยาวและขนาดที่ต้องการของตลาด ที่สวนจะเน้นปุ๋ยคอก รากจะขึ้นมาขาวสวยงาม ส่วนน้ำห้ามแฉะ แต่ต้องรดน้ำตลอด นอกจากนี้ใบกล้วยก็ห้ามตัดทิ้ง ต้องมี 10-12 ใบ ต้องปล่อยไว้เพื่อเลี้ยงลูก” คุณปราณี กล่าวและว่า ปัจจุบันจะเน้นทำเกษตรอินทรีย์ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
ปัญหาของโรคกล้วยหอมที่ปลูกมี 2 ชนิด คือโรคเชื้อรา และหนอนกอ เราถึงตัดใจพักที่มาพัฒนาดินปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน เช่น ข้าวโพด แล้วถึงมาปลูกกล้วยใหม่ ช่วงที่กล้วยตั้งท้องจะอ่อนแอที่สุด ปลายฝนต้นหนาวถือว่าอันตราย โรคจะเข้าได้ง่าย แต่ถ้าต้นสมบูรณ์ใบแข็งแรง ต้นแข็งแรง ก็จะไม่มีปัญหา สำคัญที่สุดอยู่ที่ราก เมื่อรากดีสมบูรณ์หน่อจะเกิดรอบต้นโผล่ให้เห็น
“เมื่อกล้วยมีปลีแล้วก็เริ่มค้ำต้นได้ เกษตรกรเห็นปลีแล้วจะดีใจ เครือหนึ่งมี 7 หวี วิธีการค้ำก็ต้องค้ำที่ด้านขวาของต้น ค้ำให้ห่างต้นพอสมควร พอมีลูกเข้าทรงแล้วก็จะห่อด้วยถุงพลาสติก การห่อจะทำให้ผิวสวย กล้วยไม่โดนใบเสียดสี ลูกจะยาว สวย หวีหนึ่งไม่ต่ำกว่า 1 กิโลแปดขีด ตามที่ตลาดต้องการ” เจ้าของสวนกล้วยกล่าว
ขอย้ำว่าเมื่อเราปลูกกล้วยแล้ว แนะนำให้พักพื้นที่ ปลูกพืชอย่างอื่น เพื่อป้องกันหนอนกอ เช่น พักดินแล้วปลูกข้าวโพด จากนั้นก็ไถกลบแล้วถึงจะปลูกกล้วยหอมทองชุดใหม่ จะได้กล้วยที่มีคุณภาพและผิวสวย เมื่อกล้วยสวย เกษตรกรก็ภาคภูมิใจ ทำแล้วสบายใจ ลูกค้าก็จะได้สินค้าที่มีคุณภาพ เข้ามาที่สวนที่ไรก็ชื่นใจ เมื่อขายได้ราคายิ่งดีใจ
“สำหรับต้นทุน 1 ต้น ลงทุนประมาณ 70 บาท เราขายได้เครือละ 160-170 บาท มีกำไรเท่าตัว เราปลูก 300 ต้นต่อไร่ เราต้องทำให้สูญเสียน้อยที่สุด ไม่เกิน 15 เปอร์เซ็นต์ เราปลูกน้อย ๆ แต่ดูแลอย่างประณีตจะดีที่สุด ที่สวนทำ 200 ไร่ ใช้คนงานเพียง 8 คน” คุณปราณี กล่าว
เมื่อก่อนมีอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า แต่หันมาปลูกกล้วยแล้วถือว่ารายได้ดี ส่งลูกสาวเรียนจบปริญญาทางด้านอาหาร เตรียมที่จะมาต่อยอดสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้ครอบครัว แปรรูปกล้วยส่งออก ทำผลิตภัณฑ์จากกล้วย สำหรับพื้นที่ตรงนี้มุ่งมั่นที่จะจะพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีร้านกาแฟในสวนกล้วย เป็นที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่
ผู้ที่สนใจมาเที่ยวชม เดินทางมาไม่ยาก วิ่งเรียบคลอง 13 ประมาณ 19 กิโลเมตรก็ถึงสวน เรามีโรงงานแปรรูปกล้วยส่งออกประเทศญี่ปุ่น รวมกลุ่มกันประมาณ 22 ราย พื้นที่ 1,000 กว่าไร่ ทำเป็นวิสาหกิจชุมชน สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันตลอดเวลา
“สนใจติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 084-673-0665 ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ” คุณปราณี กล่าวในที่สุด
>> Live ปลูกกล้วยหอม ส่งออกญี่ปุ่น… https://www.facebook.com/kasetkaoklai/videos/241126839905528/