พบเกษตรกรตัวจริง…ปลูกดาวเรืองประสบความสำเร็จ ทิ้งอดีตที่เคยทำงานโรงงานและเป็นพ่อค้าขายมะม่วงมาเป็นเกษตรกรเงินล้าน…ปัจจุบันมีที่ดิน 60 ไร่ และได้แบ่งพื้นที่มาปลูกดอกดาวเรืองถึง 20 ไร่
คุณอิสระ วงศ์อินทร์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด เปิดเผยว่า “ศรแดง” ได้พัฒนาพันธุ์ดอกดาวเรืองลูกผสมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพันธุ์ “เทวี” ที่มีดอกขนาดใหญ่พิเศษ สีทองโดดเด่นตามความต้องการตลาด ให้ดอกจำนวนมาก และยังให้ดอกคุณภาพดีต่อเนื่องแม้ในสภาพอากาศแล้ง สวนทางกระแสสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในฤดูแล้งนี้ โดยมีตัวอย่างเกษตรกร ในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ที่ประสบความสำเร็จในการปลูกดาวเรืองลูกผสมพันธุ์ “เทวี” นี้ ที่มีรายได้ถึงหลักล้านบาทต่อการเพาะปลูกเพียง 1 รอบเท่านั้น
“สำหรับดาวเรืองลูกผสมพันธุ์ “เทวี” มีลักษณะเด่นคือ มีสีทองเข้มสวย ซึ่งสีนี้เป็นที่นิยมในตลาดอย่างมาก ตัวดอกมีขนาดใหญ่จัมโบ้ ให้ดอกดกต่อเนื่อง ตัดขายได้หลายมีดต่อการปลูก 1 ครั้ง และที่สำคัญ ดาวเรือง “เทวี” ยังคงให้ดอกที่มีคุณภาพดีแม้ในฤดูแล้ง ซึ่งเป็นฤดูที่เกษตรกรจะรู้กันดีว่า คุณภาพดอกพันธุ์ทั่วไปที่ได้ช่วงนี้จะไม่สมบูรณ์ และสูญเสียเป็นจำนวนมาก แต่เมล็ดพันธุ์ “เทวี” ของ “ศรแดง” ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มาอย่างต่อเนื่อง จึงมีความทนทาน และสามารถให้ผลผลิตสูงสุดกับเกษตรกรได้แม้ในฤดูแล้งอย่างนี้ และนอกจากนี้เรายังสนับสนุนเกษตรกร โดยจัดให้มีบุคลากรเข้าไปดูแลเกษตรกรผู้ใช้เมล็ดพันธุ์ของ “ศรแดง” อย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอนการปลูก เนื่องจากดอกดาวเรืองถือเป็นพืชเศรษฐกิจ มีตลาดรับซื้อตลอดทั้งปีถึง 10 ล้านดอกต่อวัน หรือเท่ากับประมาณ 7.5 บาทต่อวัน ทำให้ดาวเรืองกลายมาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้เกษตรกรได้นำไปเพาะปลูกเป็นอาชีพ ซึ่งนับได้ว่าดาวเรืองเป็นพืชเศรษฐกิจชั้นนำ ที่ทำรายได้อย่างมหาศาลให้กับเกษตรกรไทยเลยทีเดียว” คุณอิสระกล่าว
ด้านเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จจากการปลูกดาวเรือง คือ คุณสุภิญโญ ใจมั่น อายุ 49 ปี เป็นชาวโคราช ซึ่งก่อนที่จะหันมาปลูกดาวเรือง คุณสุภิญโญเคยทำงานโรงงานและเป็นพ่อค้าขายมะม่วงมาก่อน แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก จึงหันมาทดลองปลูกดาวเรือง เพราะเห็นว่ากำไรดี เริ่มปลูกครั้งแรกโดยการซื้อเมล็ดพันธุ์มาจากปากคลองตลาด ต่อมา “ศรแดง” ได้นำเมล็ดพันธุ์ดาวเรืองลูกผสม “เทวี” มาให้ทดลองปลูก พบว่าให้ผลผลิตดี ให้ดอกใหญ่ ต่อเนื่อง ไม่ขาดรุ่น โดยคุณสุภิญโญปลูกดาวเรืองจำนวน 20 ไร่ ปลูกมาแล้วเกือบ 15 ปี สร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
“เราจะใช้เวลาเพาะกล้า ลงดิน รวมประมาณ 2 เดือน หลังจากดอกโตเต็มที่ เฉลี่ยแล้วจะตัดดอกได้อีก 2 เดือน โดยจะมีระยะการตัดดอกประมาณ 2 วันครั้ง เท่ากับ 1 การปลูกจะตัดได้ประมาณ 20 มีด มีดหนึ่งจะได้ดอกประมาณ 140,000 ถึง 150,000 ดอก ราคาอยู่ตั้งแต่ดอกละ 25 สตางค์ถึง 1 บาท 40 สตางค์ ขึ้นอยู่กับขนาดดอกและช่วงเวลา” คุณสุภิญโญกล่าว
คุณสุภิญโญกล่าวต่อว่า การปลูกดาวเรืองนั้น จัดว่าใช้เงินลงทุนไม่มาก โดยเมล็ดพันธุ์ 1 ซอง มีประมาณ 1,000 เมล็ด และ 1 ต้นสามารถให้ดอกได้ถึง 15-20 ดอก นับว่าคุ้มเลยทีเดียว ที่เหลือก็จะเป็นค่าแรงคนงานในการปลูก ดูแลรักษา เก็บเกี่ยวและคัดแยกขนาด ซึ่งตลอดการเพาะปลูก ก็จะมีเจ้าหน้าที่จาก “ศรแดง” เข้ามาช่วยดูแลอย่างสม่ำเสมอ ถือได้ว่าการปลูกดาวเรืองเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า สร้างรายได้อย่างมากให้กับเกษตรกรที่กำลังมองหาพืชชนิดใหม่เพื่อเพาะปลูก
ปัจจุบัน คุณสุภิญโญมีที่ดินทั้งหมด 60 ไร่ แบ่งปลูกดาวเรือง 20 ไร่ สลับกับการปลูกดอกกะหล่ำและมะเขือเทศ มีรถไถ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน มีบ่อขุดสำหรับกักน้ำเพื่อรดแปลงดาวเรืองด้วยระบบสปริงเกอร์ และยังมีบ่อเลี้ยงปลาดุกไว้เพื่อเป็นอาหารอีกด้วย