ครม.มีมติเห็นชอบ 4 โครงการ ให้ ธ.ก.ส.ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2559/60 จำนวน 3.7 ล้านราย วงเงินงบประมาณรวมกว่า 45,000 ล้านบาท
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2559/60 ผ่านระบบ ธ.ก.ส. ประกอบไปด้วย
1.มาตรการดูแลหนี้สินเดิมผ่านโครงการพักชำระหนี้เงินต้นและลดดอกเบี้ยให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2559/60 เพื่อบรรเทาภาระหนี้สินและลดต้นทุนการประกอบอาชีพให้กับเกษตรกรรายย่อย ลูกค้า ธ.ก.ส.ที่มีหนี้เงินกู้เพื่อการผลิตข้าวไม่เกิน 500,000 บาท จำนวนประมาณ 2 ล้านราย โดยจะขยายเวลาชำระต้นเงินออกไป 24 เดือน พร้อมลดดอกเบี้ยให้ 3% ทั้งนี้รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้เกษตรกร 1.5% ต่อปี และ ธ.ก.ส.รับภาระดอกเบี้ยแทนเกษตรกร 1.5% ต่อปี โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยแทนเกษตรกรคิดเป็นเงินปีละ 2,700 ล้านบาท ระยะเวลา 2 ปี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5,400 ล้านบาท สำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการนี้จะมีภาระดอกเบี้ยเพียง 4% และมีสิทธิกู้เงินเพื่อฟื้นฟูหรือพัฒนาอาชีพของตนเองได้ตามศักยภาพอีกด้วย
2.โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการผลิตของเกษตรกรรายย่อย มุ่งเน้นให้เกิดกระบวนการคิดวิเคราะห์ วางแผนการผลิตเพื่อเพิ่มรายได้และการใช้จ่ายอย่างเหมาะสม ธ.ก.ส.ดำเนินการร่วมกับศูนย์เรียนรู้ชุมชนต่างๆ จัดอบรมเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 “รู้กระแสเงินสด อนาคตมั่นคง” เน้นการวิเคราะห์กระแสเงินสดจากการประกอบอาชีพปัจจุบัน เพื่อให้เข้าใจต้นทุนและรายได้ที่แท้จริง จำนวน 300,000 ราย จากนั้นจะคัดเลือกเพื่ออบรมในหลักสูตรระยะที่ 2 “ปรับเปลี่ยนการผลิต สู่ชีวิตที่ยั่งยืน” เน้นการให้ความรู้ในการปรับเปลี่ยนการผลิตเพื่อเพิ่มรายได้จากการผลิตครบวงจรและการพัฒนาอาชีพเสริมตามแนวทาง “การตลาดนำการผลิต” ในรูปแบบเกษตรพันธะสัญญา (Contract Farming) มีการจัดการด้านการผลิตที่มีตลาดรองรับชัดเจน จำนวน 15,000 ราย เริ่มดำเนินการ 1 กรกฎาคม 2559 – 31 ธันวาคม 2560 ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 258 ล้านบาท
3.มาตรการรักษาเสถียรภาพการผลิตผ่านโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2559 เพื่อให้เกษตรกรทั่วไปและเกษตรกรลูกค้าของ ธ.ก.ส.ได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันภัยเมื่อเกิดภัยธรรมชาติ 7 ประเภท ได้แก่ อุทกภัย ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ อากาศหนาว ลูกเห็บ และอัคคีภัย รวมทั้งภัยจากศัตรูพืชและโรคระบาด มีพื้นที่เป้าหมาย 30 ล้านไร่ โดยมีอัตราค่าเบี้ยประกันภัยเท่ากันทั่วประเทศอัตราไร่ละ 100 บาท รัฐบาลอุดหนุนไร่ละ 60 บาท เกษตรกรชำระไร่ละ 40 บาท สำหรับเกษตรกรที่เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส. ธ.ก.ส.จะอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยส่วนของเกษตรกรให้ทั้งหมด สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายในส่วนของภาครัฐจำนวน 2,071 ล้านบาท
4.โครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2559/60 จำนวนประมาณ 3.7 ล้านราย โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท รายละไม่เกิน 10 ไร่ รวมงบประมาณของโครงการทั้งสิ้น 37,860 ล้านบาท โดย ครม.เห็นชอบในหลักการและกรอบวงเงินตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ให้กระทรวงการคลังกำหนดแนวทางปฏิบัติร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรายละเอียดก่อนดำเนินการตามโครงการต่อไป
“ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้ ธ.ก.ส.ต้องเร่งออกมาตรการเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องเกษตรกรให้สามารถมีเงินทุนในการหาปัจจัยการผลิตในรอบใหม่และให้มีรายได้เพียงพอสำหรับการใช้จ่ายในครัวเรือน ทั้งการดูแลหนี้สินเดิมและการสร้างเสถียรภาพการผลิตให้กับเกษตรกร ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในระยะยาว” นายลักษณ์กล่าว
(ต้องการทราบละเอียดเพิ่มเติม : สำนักสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์ ธ.ก.ส. โทร 02 558 6100 ต่อ 6733, 6734, 6735 และ 6740)