“หน้าแล้งมาเยือนทีไร มะนาวขึ้นราคาทุกที”…แต่วันนี้ไม่แน่เสมอไปแล้ว เพราะหน้าฝนมะนาวก็ยังราคาดี เรียกว่าไม่ตกต่ำมากเหมือนในอดีต…
(ล่าสุดนี้ (28/07/59)จากการสำรวจของ “เกษตรก้าวไกลดอทคอม” พบว่าราคามะนาวที่ตลาดสี่มุมเมือง เบอร์ใหญ่ 100 ลูก เฉลี่ยราคา 450 บาทต่อร้อยละ ผ่านช่วงราคาต่ำสุดในรอบปี (12-22/07/59) เฉลี่ยราคา 402 บาทต่อร้อยละ และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงปลายปีเป็นต้นไป)
แต่สำหรับ อ.ประเวศ แสงเพชร ข้าราชการเกษียณกรมวิชาการ หรือที่รู้จักกันในนาม “หมอเกษตรทองกวาว” คอลัมน์นิตส์ตอบปัญหาเกษตรชื่อดังของนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน เครือมติชน ดูเหมือนว่าจะรู้จะไม่ทุกข์ร้อนว่ามะนาวจะราคาถูกหรือแพง เพราะว่าปลูกมะนาวกระถางไว้กินเองมานานหลายปีแล้ว
มะนาวที่ปลูกเป็นพันธุ์พิจิตร 1 หรือ “แป้นพิจิตร” ซึ่งได้ต้นพันธุ์มาจากศูนย์วิจัยพืชสวนพิจิตรของกรมวิชาการเกษตร
“ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจนัก แต่พอปลูกไม่นานปรากฏว่าติดดอกออกผลดกมาก ออกเป็นพวง เคยนับดูพวงที่ต้นสมบูรณ์เต็มที่มีถึง 30 ลูก ที่สำคัญ ไม่เป็นโรคแคงเกอร์ ขยายพันธุ์ได้ง่าย แถมทำนอกฤดูได้ดีด้วย จึงเป็นขยายพันธุ์แจกจ่าย ซึ่งพบว่าวิธีการตอนกิ่งเหมาะสมที่สุด …”
มะนาวในกระถางต้นดกที่กำลังพูดถึง ปลูกมา 2 ปีแล้ว ทั่วบ้านนั้นมีอยู่นับ 10 กระถาง เน้นแป้นพิจิตร 1 แต่ก็มีแซมด้วยพันธุ์ตาฮิติ ที่เป็นมะนาวไร้เมล็ดอยู่บ้าง
“อยากให้แนะนำการปลูกมะนาวในกระถางให้ดกแบบว่าทำนอกฤดู ทำอย่างไรครับ” เข้าเรื่องเลย
“ก่อนอื่นก็ให้หากระถาง…อย่างที่เห็นนี้เป็นกระถางลายมังกรขนาด 18 นิ้ว ซึ่งจริงๆจะเป็นเข่งพลาสติคแบบที่มีหูหิ้วก็ได้ แต่ไม่ทนทานเท่ากระถางแบบนี้…ให้เอาเศษอิฐดินเผารองที่ก้นกระถางเพื่อกันไม่ให้ดินรั่วไหล แต่ต้องให้ระบายน้ำได้ดี จากนั้นนำดินถุงผสมกับเปลือกมะพร้าวสับเล็ก ดิน 3 ส่วนต่อมะพร้าว 1 ส่วน นำไปใส่กระถางจนเกือบเต็ม ทำให้ตรงกลางนูนๆ และขุดหลุมให้พอถุงต้นพันธุ์มะนาวลงไปได้ จากนั้นกลบดินให้แน่น…ระวังตอนที่จะปลูกนั้นจะต้องใช้มีดกรีดต้นพันธุ์ที่อยู่ในถุงเพาะชำเบาๆ อย่าให้ดินที่เกาะรากแตกออกมา จะทำให้รากขาดได้ และในช่วงที่ปลูกใหม่ๆให้ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เย็บแม็คคลุมปิดต้นพลางแสงไว้ รอจนกว่ารากเดินดีก็เอาออก ไม่นั้นอาจจะมีสิทธิ์ใบเหี่ยวได้” อ.ประเวศ ร่ายยาว
จุดที่จะวางกระถางสังเกตดูมีแสงแดดเกือบตลอดวัน ซึ่งอ.ประเวศบอกว่าถ้าจะให้ดีต้องให้ได้รับแสงแดดอย่างน้อย 5-6 ชั่วโมง และที่ก้นกระถางมีก้อนอิฐรองด้วย ตรงนี้บอกว่าเพื่อให้ระบายน้ำได้ดี และจะง่ายต่อการควบคุมมะนาวให้อยู่ในโอวาท หรือจะหมุนซ้ายหมุนขวาก็ง่ายกว่า…
เมื่อปลูกไปได้ไม่นานนัก มะนาวก็จะเริ่มติดดอกออกผล หากว่าดูแลดี ซึ่งหมายถึงว่า น้ำ สำคัญมากอย่าให้ขาด ต้องให้ดินมีความชุ่มชื่นอยู่เสมอ ใส่ปุ๋ยบ้างเป็นครั้งคราว และในช่วงปีแรกที่ออกดอกนั้น ให้เด็ดทิ้งไปก่อน ไม่ต้องเสียดาย เพราะถ้าไว้ผลต้นจะไม่สมบูรณ์ รอให้เข้าปีที่ 2 ก็เริ่มทำนอกฤดูกันเลย
วิธีการทำนอกฤดู…
สมมุติว่าเราต้องการให้เก็บผลมะนาวได้ในเดือนเมษายน…พอถึงเดือนพฤศจิกายน เราจะต้องทำการงดน้ำ จนดูว่าใบเริ่มม้วนทำท่าจะสลด ให้โรยปุ๋ยสูตร 12-24-12 ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะบางๆ โรยรอบต้นให้ทั่ว อย่าให้ใกล้ต้นมาก และรดน้ำตามทันที จากนั้นรดน้ำทุกวันให้ชุ่ม แต่อย่าให้แฉะ ภายใน 2 สัปดาห์ มะนาวจะออกดอกสะพรั่ง ให้เปลี่ยนเป็นปุ๋ยสูตร 15-15-15 ใส่เดือนละประมาณ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ และเมื่อเห็นว่ามะนาวติดลูกดีแล้ว ให้ใส่ปุ๋ยตัวท้ายสูง สูตร 13-13-21 ในอัตราเท่าเดิม เดือนละ 2 ครั้ง (ถ้าไม่มีปุ๋ยสูตรนี้ จะใส่สูตรเดิม 15-15-15 ก็ได้) กระทั่งก่อนเก็บเกี่ยวเมื่อลูกมะนาวโตเต็มที่แล้วก็ให้งดปุ๋ย…ใช้เวลาประมาณ 5 เดือน หลังติดลูกก็เก็บเกี่ยวได้
เคล็ดลับ…ช่วงที่มะนาวผลิใบใหม่ๆ หลังงดน้ำ จะมีศัตรูจ้องเข้ามาทำลาย ทั้งหนอนชอนใบ หนอนกัดกินใบสารพัดชนิด แต่เราไม่ต้องรอให้มันมา ให้ใช้ยาฉุน(ยาเส้น) ½ จับ ใส่ลงไปในแก้วน้ำอัดลมขนาด 1 ลิตร ใส่น้ำให้เกือบเต็ม แช่ไว้ 3-4 ชั่วโมง กรองเอาแต่น้ำ ใส่ป๊อกกี้ที่ฉีดรีดผ้า ก่อนฉีดให้ผสมเหล้าขาวลงไป 1 เป๊ก เขย่าให้เข้ากันดี นำไปฉีดพ่นให้ทั่ว วันเว้นวัน จนครบ 7 วัน จึงหยุดได้
นี่เป็นวิธีบังคับมะนาวในกระถางให้ออกนอกฤดูแบบง่ายๆ ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะกับปลูกมะนาวในบ้าน แต่ถ้าเป็นการปลูกเพื่อการค้าอาจจะต้องใช้สารเคมีก็ว่ากันไป
อาจมีคำถามว่า มะนาวกระถางให้ผลผลิตได้กี่ปี…เรื่องนี้ได้รับคำตอบว่า ต้นมะนาวเริ่มโทรมเมื่อมีอายุครบ 5 ปี เนื่องจากรากเจริญเติบโตอัดแน่นในกระถาง ไม่สามารถเติบโตต่อไปได้ แม้บำรุงเต็มที่แล้วก็ตาม จำเป็นต้องรื้อปลูกใหม่
ก่อนอำลาเจ้าของบ้านได้ให้ข้อคิดน่าสนใจทีเดียว
“ข้อดีของการปลูกมะนาวในกระถาง คือ ไม่มีที่ก็ปลูกไว้บริโภคได้ อีกทั้งทำให้เพลิดเพลิน เป็นงานอดิเรกที่ดี ส่วนข้อด้อย ก็มีเพียงต้องให้น้ำทุกวัน”
สรุปว่า ปลูกมะนาวกระถาง จะทำให้พ่อบ้านกลับบ้านตรงเวลา ไม่ต้องไปแวะที่ไหน และแน่นอนว่าแม่บ้านต้องชอบใจ แถมเพื่อนบ้านก็ได้รับผลดีไปด้วย เพราะผลผลิตส่วนหนึ่งก็จะถูกแจกจ่ายออกไป เป็นการสร้างมิตรไปในตัว…คุณพ่อบ้านน่าจะนำวิธีนี้ไปใช้บ้างนะครับ