เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2559…นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายนริศ ภูมิภาคพันธ์ นายอุทิศ กุฏอินทร์ อาจารย์คณะวนศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รอ.นพ.ปัญญา ยังประภากร ปัญญาฟาร์ม และคณะทีมงาน ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี บริเวณหมู่บ้านบ้านโป่งลึก-บางกลอย เพื่อเป้าหมายเก็บไข่จระเข้….
การเดินทางครั้งนี้ นับได้ว่าต้องผ่านเส้นทางที่ยุ่งยากพอสมควร แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค โดยครั้งนี้ทางอธิบดีและทีมงานระดับบริหารนั้น ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ใช้เวลา 15 นาที ส่วนพลพรรคส่วนหนึ่งต้องเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง แล้วเดินเท้าต่อ ลงแพข้ามลำน้ำเพชร รวมเวลาไปกลับ 6 ชั่วโมงเต็มๆ
ในจุดที่พบนั้นมีสภาพความเป็นธรรมชาติ ริมแม่น้ำเพชรบุรี …เจ้าหน้าที่จะมีการลาดตระเวนป่าเป็นประจำ บริเวณที่เคยพบจระเข้ก็จะมีการสำรวจบ่อยขึ้นในช่วงฤดูวางไข่ โดยสำรวจชายน้ำไปตลอดหากพบทางขึ้นลงของจระเข้ โดยเห็นหญ้าหรือต้นไม้เล็กถูกแหวกเป็นรูขึ้นไปบนฝั่งก็จะขึ้นไปดูบริเวณนั้น หากจระเข้สร้างรังวางไข่จะเห็นบริเวณนั้นมีเศษดิน + หญ้าผสมกันพูนสูงขึ้นมาประมาณ 40-50 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5-2.00 ม. ก็ให้สำรวจหาแม่จระเข้ต่อ เพราะจะเฝ้าไข่อยู่แถวนั้น บางครั้งพบแม่จระเข้ก่อนพบไข่พบไข่จระเข้ทั้งหมด
ในการสำรวจครั้งนี้ พบไข่จระเข้ทั้งหมด 27 ฟอง แต่มีรู(แตกร้าว) 1 ฟอง …
นายธัญญา กล่าวว่า ไข่จระเข้ทั้งหมดนี้ จะต้องนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าไข่มีเชื้อหรือไม่และนำไปฟักในห้องฟักไข่จระเข้ของบริษัท ปัญญาฟาร์มฯ เหตุผลที่ต้องนำไปฟักต่อ เพราะบริเวณที่จระเจ้มาวางไข่นั้นมีน้ำหลาก หากปล่อยเอาไว้ไข่อาจจะเน่าได้ อีกทั้งอาจจะถูก ตัวนาก ตัวเหี้ย หรือ กิ้งก่า และ นกบางชนิดเข้ามากินได้
“เมื่อ 3 ปีก่อน (ปี 2556) เราก็เคยเก็บไข่จระเข้จากบริเวณเดียวกันนี้ได้ แล้วเอาไปฟักได้แล้วถึง 7 ตัว อยู่ที่ปัญญาฟาร์ม กำแพงแสน ทุกตัวอยู่ในสภาพสมบูรณ์แข็งแรง ลำตัวยาวประมาณ 1.3-1.5 เมตร แล้ว พร้อมที่จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติที่แม่น้ำเพชรบุรีเร็วๆนี้ ถือเป็นความสำเร็จในการฟื้นฟูจระเข้สายพันธุ์ไทย ที่เกือบจะหายไปจากธรรมชาติ ให้กลับคืนมาอีกครั้ง”
ทางด้าน รอ.นพ. ปัญญา ผู้รับผิดชอบนำไข่จระเข้ไปฟักกล่าวล่าสุด(2/8/59)กับ “เกษตรก้าวไกลดอทคอม” ว่า ไข่จระเข้ที่พบครั้งนี้เท่าที่ตรวจสอบดูพบว่าไม่มีเชื้อ แต่ก็จะฟักต่อให้ครบเวลา 80 วัน ซึ่งการฟักในห้องฟักที่เหมาะสมนั้น จะทำให้มีโอกาสรอดจากฟักแบบธรรมชาติสูงมาก
อนึ่ง ไข่จระเข้ที่เก็บได้นี้เป็นจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย (Siamese Crocodile) ชื่อวิทยาศาสตร์ (Crocodylus siamensis) ซึ่งในเรื่องนี้นั้นนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร สมัยเป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้เคยให้ความเห็นว่า (อ้างอิงความเห็นจาก ASTV-ผู้จัดการออนไลน์) เขาได้ทำวิจัยเรื่องจระเข้น้ำจืดมา 3-4 ปีแล้ว โดยพบว่าแม่น้ำเพชรบุรีในอุทยานที่มีความยาว 60 กิโลเมตรนั้น มีจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย 5 ตัว …การสำรวจพบไข่จระเข้ครั้งนี้จึงเป็นเรื่องน่ายินดีไม่น้อยเลยทีเดียว
(เอื้อเฟื้อภาพโดย : รอ.นพ.ปัญญา ยังประภากร บริษัท ปัญญาฟาร์ม กำแพงแสน จำกัด : ยกเว้นภาพที่ 1 จากไทยรัฐออนไลน์ : ขอบคุณมา ณ โอกาสนี้)