กระทรวงเกษตรฯ เปิดโครงการตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ “เปลี่ยนเกษตรกรให้เป็นผู้ค้าออนไลน์มืออาชีพ”อย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมระดมทัพมืออาชีพด้านการตลาด ติวเข้มเกษตรกรสู่นักขายออนไลน์บนแพลทฟอร์มยักษ์ใหญ่ “ลาซาด้า” หลังพบปัจจุบันมีผู้ซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์วันละถึง 5 ล้านคน “เฉลิมชัย” ชี้เป็นโอกาสทองทางการตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ของไทย ตอกย้ำตลาดนำการเกษตร ลั่นต่อไปไม่ใช่แค่ขายเป็น แต่ต้องขายได้ เพิ่มเงินเข้าประเป๋าด้วย ขณะที่กรมส่งเสริมการเกษตร ได้สตาร์ทเครื่องขับเคลื่อนล่วงหน้าแล้ว ล่าสุดจับมือ 3 องค์กร “ศูนย์เครือข่ายเกษตร–สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์–บริษัท ไปรษณีย์ไทย” จัดอบรมเจ้าหน้าที่ เกษตรกร และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมจำหน่ายสินค้าผ่าน 24 Shopping และTHAILANDPOSTMART.COM
วันที่ 4 มีนาคม 2563 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานเปิดตัวโครงการตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ “เปลี่ยนเกษตรกรให้เป็นผู้ค้าออนไลน์มืออาชีพ” ณ สำนักบริหารคอมพิวเตอร์ ชั้น 3 Auditorium 306 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ว่า ปัจจุบันเทรนด์การค้าออนไลน์กำลังเป็นที่นิยมและมีอัตราการเติบโตที่สูงยิ่งขึ้น จากการสำรวจพบว่า การซื้อขายผ่านทางช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์ม (Platform) ในปัจจุบันมีมากถึงวันละ 4 – 5 ล้านคน นับเป็นโอกาสทางการตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ของไทยเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้น กระทรวงเกษตรฯ จึงจัดทำโครงการตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ขึ้น ตามนโยบายตลาดนำการเกษตร โดยมีคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ มีนายนราพัฒน์ แก้วทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ผสานความร่วมมือกับแพลตฟอร์มการขายออนไลน์ที่มีศักยภาพและมีชื่อเสียงอย่าง ลาซาด้า (LAZADA) ซึ่งมีจำนวนผู้เข้าชมมากกว่าวันละ 2 ล้านคน เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรให้กับเกษตรกรได้ขายผลผลิตแปรรูป ผลิตภัณฑ์เกษตร และกระจายผลผลิตสินค้าเกษตรในรูปผลสดในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมาก จะทำให้ราคาสินค้าเกษตรมีเสถียรภาพ เกษตรกรขายผลผลิตได้ราคาและมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยคัดเลือกสินค้าที่มีศักยภาพจากกลุ่มเกษตรกร 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มเกษตรกรในระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร และกลุ่ม Young Smart Farmer
ทั้งนี้ มีวัตุประสงค์หลัก คือ 1. เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรให้กับกลุ่มเกษตรกรสามารถขายผลผลิตแปรรูป ผลิตภัณฑ์เกษตร และกระจายผลผลิตสินค้าเกษตรในรูปผลสดในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมาก, 2. จัดอบรมเกษตรกรให้เป็นผู้ขายสินค้าเกษตรออนไลน์อย่างมืออาชีพ, 3. สร้างการรับรู้นโยบายการตลาดนำการเกษตรด้วยการพัฒนาเกษตรกรมาเป็นผู้ค้าออนไลน์, และ 4. เพื่อให้ผู้บริโภคทั่วประเทศเข้าถึงสินค้าเกษตรได้สะดวก ง่าย และได้บริโภคสินค้าดี มีคุณภาพ ราคาดี ส่งตรงจากเกษตรกร
นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า จากความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงเกษตรฯ กับ บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์อันดับหนึ่งของไทย มาเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดในการขายสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพจากกลุ่มเป้าหมาย ทำให้วันนี้เป็นโอกาสดีที่จะ Kick off เปิดตัวโครงการตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ “เปลี่ยนเกษตรกรให้เป็นผู้ค้าออนไลน์มืออาชีพ” อย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับเกษตรกรกลุ่มต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ภาครัฐได้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงการค้าสินค้าในปัจจุบัน ที่นิยมซื้อขายบนออนไลน์เพิ่มขึ้น มีผู้เข้าร่วมกว่า 300 คน
นอกจากนี้ในวันที่ 3 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา มีการจัดกิจกรรมฝึกอบกรมเกษตรกร 4 กลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจเข้าร่วม จำนวน 107 คน รวมถึงข้าราชการเข้าร่วมด้วย เพื่อให้ไปสอนขยายความรู้ต่ออีกกว่า 80 คน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีกับ ลาซาด้า เป็นผู้สอนด้านการตลาดทั้งการนำสินค้าเกษตรขึ้นขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เทคนิคการถ่ายภาพ และการเขียนสตอรี่(Story) ให้ดูน่าสนใจ รวมถึงการทำโปรโมชั่นสินค้าเกษตรของตนเองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่ไม่เพียงแค่ให้เกษตรกรขายเป็นเท่านั้น แต่เกษตรกรจะต้องขายได้ และมีเงินเข้ากระเป๋าเพิ่มขึ้น
“ในอนาคตกระทรวงเกษตรฯจะร่วมมือกับ ลาซาด้า และพันธมิตรในการขยายความร่วมมือกันโดยจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ แต่เราจะพัฒนาไปสู่ แพลตฟอร์มอื่นๆ ต่อไป โดยมุ่งหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้เกษตรกรมีช่องการทางจำหน่ายที่กว้างขึ้น พร้อมทั้งจะดำเนินการฝึกอบรม สร้างองค์ความรู้ จัดอบรมให้กับเกษตรกรแปลงใหญ่ กลุ่มสหกรณ์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และ Young Smart Farmer รวมถึงเกษตรกรอื่น ๆ นับเป็นความร่วมมือมิติใหม่ที่เป็นประโยชน์กับเกษตรกรให้ทั่วถึงทุกภูมิภาค โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเป็นพี่เลี้ยงด้านวิชาการ การปลูก การแปรรูปให้ได้มาตรฐาน และ LAZADA ให้องค์ความรู้ด้านการตลาดเพื่อเพิ่มศักยภาพการขายออนไลน์ให้กับเกษตรกร หากเกษตรกรท่านใดสนใจ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมกับหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ของท่านได้”รมว.เกษตรฯ กล่าว
นายแจ๊ค จาง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ ทางลาซาด้ามีทีมงานที่ค่อยให้คำปรึกษา และให้ความรู้เกษตรกรในด้านการขายสินค้าออนไลน์ โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการขายที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงทางลาซาด้ายังมีระบบโลจิสติกส์ ที่จะช่วยให้การซื้อขายของเกษตรมีคุณภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ลาซาด้ายังได้นำสินค้าเกษตรแปรรูปส่งขายในแพลตฟอร์มของอาลีบาบา ไปจำหน่ายที่ประเทศจีน เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับเกษตรกรอีกด้วย
ด้าน นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการขับเคลื่อนโครงการตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ กรมส่งเสริมการเกษตรได้ขับเคลื่อนนโยบายนี้มาตลอด ที่ผ่านมาได้มีการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ เกษตรกร และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อถ่ายทอดความรู้การขายสินค้าเกษตรในตลาดออนไลน์ เพื่อให้ผู้เข้าอบรมร่วมกันขับเคลื่อนโครงการตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ ภายใต้หลักการตลาดนำการเกษตร และเกษตร 4.0 ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการร่วมกับศูนย์เครือข่ายเกษตร สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัดเป็นต้น โดยสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ จะผู้จัดจัดอบรมการจำหน่ายสินค้าในรูปแบบออนไลน์ เพื่อพัฒนาเกษตรกรให้เป็นผู้ประกอบการ พร้อมที่จะประกอบธุรกิจร่วมกับ 24 Shopping ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าวางจำหน่ายทั้งหมด 14 รายการจากเกษตรกร 17 คน เช่น ทุเรียนป่าละอู ทุเรียนนนท์ กล้วยไม้นนท์ พริกไทย มะพร้าวแปรรูป อโวคาโดพบพระ ฯลฯ โดยสินค้าสดตามฤดูกาลชนิดแรกที่กำลังออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้ คือ ทุเรียนนนท์
ส่วนบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จะจัดอบรมถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าในตลาดออนไลน์แพลตฟอร์ม https://www.thailandpostmart.com/ ให้กับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานตลาดเกษตรกรระดับจังหวัด และผู้จัดการแปลงใหญ่ทุกจังหวัด พร้อมรับสมัครเกษตรกรทั้งจากระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ Young Smart Farmer วิสาหกิจชุมชน เข้าร่วมจำหน่ายสินค้าออนไลน์ บนแพลตฟอร์ม https://www.thailandpostmart.com/ ปัจจุบันมีการจำหน่ายผลไม้เกรดพรีเมี่ยมจากระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค เช่น ชมพู่เพชรสายรุ้ง จ.เพชรบุรี ทุเรียน จ.จันทบุรี มังคุด ส้มโอทับทิมสยาม จ.นครศรีธรรมราช ลำไยอีดอ จ.ลำพูน ลองกอง จ.นราธิวาส ลิ้นจี่ จ.พะเยา เมล่อน สับปะรด จ.เชียงราย ส้มเขียวหวาน จ.เชียงใหม่ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสินค้าเกษตรอื่นๆ อีกกว่า 30 กลุ่ม ทั้งผลผลิตสดและแปรรูป เช่น ทุเรียน แคนตาลูป มะม่วง ทุเรียนป่าละอู มะพร้าวแปรรูป กาแฟ ผลิตภัณฑ์จากพริกไทย หัตถกรรม ข้าว ส้มโอบรรจุ ผลิตภัณฑ์จากถั่วลิสง มะม่วงกวน ฝรั่ง อะโวกาโด ส้มเขียวหวาน กล้วยไข่ กล้วยไม้ฯลฯ ซึ่งในปี 2562 มีผลผลิตการเกษตรบน https://www.thailandpostmart.com/ กว่า 28 รายการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 25 ล้านบาท