ยุคโควิด-19 ถือว่าวิกฤตทั่วโลก แต่ประเทศไทยเรานับว่ายังโชคดีที่เป็นประเทศเกษตรเกษตรมีอาหารการกินเพียงพอ และวิกฤตครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสของเกษตรกรไทยก็ว่าได้ เรามีการขายผลผลิตตรงผ่านออนไลน์มากขึ้น จากเดิมที่หวังพึ่งพ่อค้าคนกลางเป็นหลัก และท่องเที่ยวเชิงเกษตรก็นับว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูง เพราะด้วยนโยบายภาครัฐและสถานการณ์ที่โควิด-19 ยังไม่หายขาด ทำให้คนไทยเริ่มหันมาเที่ยวในประเทศกันมาก
The FIGnature (เดอะ ฟิกเนเจอร์) คือ สวนผลไม้เพื่อสุขภาพที่มุ่งเน้นการผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพและปลอดภัย ภายใต้สโลแกน “อร่อยและสุขภาพดี ทำได้ที่เดอะ ฟิกเนเจอร์” ที่นี่เจ้าของสวนมีการใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียด และทุก ๆ ขั้นตอนการผลิตเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธ์ที่อร่อยหวานละมุน การปลูกในโรงเรือนและเลือกวัสดุปลูกที่ลดการเกิดโรคและแมลงเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี ตลอดจนการเก็บเกี่ยวและบรรจุภัณฑ์ ต้องสะอาด ปลอดภัยและได้คุณภาพ จนถึงมือลูกค้า
คุณยงยุทธ เลารุจิราลัย หรือ คุณจิ้น ผู้ดูแลสวนแห่งนี้…เราได้พบเขาขณะยืนป้อนอาหารนกแก้วซันคอนัวร์ (คุณจิ้นเลี้ยงนกสวยงามด้วย) อยู่ตรงด้านหน้า เดอะ ฟิกเนเจอร์ ร้านจำหน่ายผลผลิตจากสวนที่มีให้บริการกาแฟและเครื่องดื่มน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพร่วมด้วย…เล่าให้ฟังว่าที่สวนทำการปลูกลูกฟิก (มะเดื่อฝรั่ง) พันธุ์ Juicy fig (ไวท์อิสราเอล ผลกลม) และ พันธุ์ BNR (Bordissot Negra Rimada) ผลรีสีแดง โดยปลูกในระบบโรงเรือนที่ทันสมัย ควบคุมระบบการให้น้ำและปุ๋ยทางโทรศัพท์มือถือ เหตุผลที่ปลูกในโรงเรือนก็เพราะสามารถควบอุณสภาพแวดล้อมได้เกือบทั้งหมดประมาณ 80% และจะปลูกในหลุมทรายเพื่อให้รากเดินหาอาหารได้ดี พร้อมกันนั้นจะใช้จุลินทรีย์ควบคุมโรคแมลงต่างๆ จะไม่ใช้สารเคมีใดๆ
“แนวคิดที่มาปลูกมะเดื่อฝรั่ง เพราะในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงเริ่มต้นศึกษาและได้แนะนำให้เกษตรกรได้ปลูก แต่ในบางช่วงรสชาติไม่ดีไม่แน่นอนผู้บริโภคจึงบอกว่าฟิกไม่อร่อย แต่ในความเป็นจริงฟิกเป็นผลไม้ที่อร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากๆ ที่ไม่อร่อย เพราะเราไม่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ เช่น หน้าฝนผลฟิกจะไม่หวาน เพราะฉะนั้นเราต้องไม่เอาน้ำจากข้างนอกเข้ามาในโรงเรือนหรือไม่หวังพึงน้ำฝนจากธรรมชาตินั่นเอง”
อีกเหตุผลหนึ่งที่คุณจิ้นหันมาปลูกมะเดื่อฝรั่งก็เพราะต้องการหาผลไม้ที่มีผลต่อระบบขับถ่ายให้กับลูก ก็พบว่ามะเดื่อฝรั่งช่วยในระบบขับถ่ายได้ดีมาก
“ฟิกเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ มีคุณค่าทางอาหารสูงสุด จัดอยู่ในสิบอันดับแรกของผลไม้ที่มีใยอาหารสูงสุดและมีแคลเซียมสูงมาก รวมทั้งแร่ธาตุและวิตามินทุกชนิดที่ร่างกายต้องการ เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม แมงกานีส เหล็ก สังกะสี ทองแดง วิตามิน A, B, C และ K โปรตีน คาร์โบไฮเดรต อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและเอนไซม์ชนิดพิเศษที่มีประโยชน์สูง ซึ่งหายากในผักและผลไม้ชนิดอื่น ๆ อีกทั้งช่วยเสริมสร้าง ซ่อมแซม และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กล้ามเนื้อ ไม่มีโซเดียมซึ่งเป็นสาเหตุของ โรคความดันโลหิตสูง ไม่มีไขมันและคอเลสเตอรอล มีเส้นใยสูง จึงมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยให้ระบบขับถ่ายกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ลดปัญหาท้องผูก ป้องกันนิ่ว กระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคปอด ฟอกตับ ม้าม ที่สำคัญมีสารยับยั้งเซลมะเร็ง ช่วยระงับการเจริญเติบโตของมะเร็งลำไส้ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดการใช้อินซูลินในผู้ป่วยเบาหวาน ช่วยถนอมสุขภาพ คงความอ่อนเยาว์ และชะลอริ้วรอยแห่งวัย”
ประวัติของสวนและกลุ่มตลาดเป้าหมาย…เดอะ ฟิกเนเจอร์ ก่อตั้งเมื่อปี 2562 ใบนพื้นที่ 10.5 ไร่ ที่ตั้งของสวนอยู่ในพื้นที่ ตำบลธาตุทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี โดยที่ตั้งของสวนอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ พัทยา ระยอง ศรีราชา ซึ่งเป็นตลาดกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อของมะเดื่อฝรั่ง เนื่องจากมีผู้อยู่อาศัยหนาแน่น มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่มาก และมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่อครัวเรือนสูง เป็นเมืองเศรษฐกิจ มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย และยังอยู่ใกล้กับจุดขึ้นลงมอเตอร์เวย์ โดยประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลสดมะเดื่อฝรั่ง กิ่งพันธุ์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะเดื่อฝรั่ง ได้แก่ ผลมะเดื่อฝรั่งอบแห้ง แยมมะเดื่อฝรั่ง น้ำมะเดื่อฝรั่ง ชาใบมะเดื่อฝรั่ง ขนมพายชีสมะเดื่อฝรั่ง เป็นต้น และยังมีผลไม้อีก 4 ชนิด ได้แก่ หม่อน มะนาวนิ้ว ฝรั่งไต้หวัน และเลม่อนยูเรก้า โดยจำหน่ายเป็นผลสด แปรรูป และกิ่งพันธุ์ รูปแบบสินค้าและบริการเป็นผลมะเดื่อฝรั่งสดและมะเดื่อฝรั่งแปรรูปที่มีบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรักษาความสดใหม่ โดยจำหน่ายผลสดและผลผลิตแปรรูปให้กับคู่ค้า เช่น ห้างสรรพสินค้า และซุปเปอร์ มาร์เก็ตต่างๆ ที่อยู่ในย่านที่เป็นตลาดกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อมะเดื่อฝรั่ง นอกจากนี้ยังจำหน่ายที่หน้าฟาร์มและในช่องทางออนไลน์โดยใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางจำหน่าย ทั้งเว็บไซต์ เฟสบุคแฟนเพจ ไลน์แอด และอินสตาแกรม ภายใต้ชื่อ The Fignature และมีการจัดกระเช้าเพื่อสุขภาพตามเทศกาลต่าง ๆ ด้วย
นอกจากนี้ เดอะ ฟิกเนเจอร์ ได้มีการวางแผนการขยายธุรกิจแบบ Forward Integration คือการประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ด้วยการจัดพื้นที่ให้สวยงามและมีจุดเช็คอินเพื่อถ่ายรูป และมีกิจกรรมครอบครัว เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายผลผลิต และผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ ในรูปแบบของฝากและของที่ระลึก และเป็นการประชาสัมพันธ์ไปด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนในสังคมยุคปัจจุบัน ที่ผู้คนชอบท่องเที่ยวและถ่ายภาพเพื่ออัพลงในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ จึงทำให้เกิดกระแสบอกต่อ แบบปากต่อปากจนเป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้น
ด้าน คุณจีระนุวัฒน์ กุลวัฒนโชคชัย ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาบ่อทอง ซึ่งเสมือนเป็นธ.ก.ส.เจ้าบ้านที่นำทีมมาต้อนรับผู้มาเยือน ประกอบด้วยคณะธ.ก.ส.สำนักงานใหญ่ที่มาพร้อมคณะสื่อมวลชน กล่าวว่า ได้สนับสนุนสินเชื่อโครงการ Green Credit (มาตรฐาน GAP) ในการลงทุนซื้อที่ดินและสร้างโรงเรือนปลูกลูกฟิก และสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียน
“วันนี้ ธ.ก.ส.ได้นำคณะสื่อมวลชนมาเยี่ยมลูกค้าที่เป็น SMEs เกษตร ที่ทำเรื่องของ เกษตรปลอดสารพิษหรืออาหารปลอดภัย ที่เรามา เดอะ ฟิกเนเจอร์ ซึ่งปลูกมะเดื่อฝรั่งและผลไม้เพื่อสุขภาพต่างๆ เพราะว่าเขาทำแปลกกว่าที่อื่นๆ เรามองว่าถ้าทำเกษตรแบบเดิม ตลาดอาจจะไปได้ไม่เท่าไหร่ แต่นี่เขามีต้นทุนความรู้ที่สามารถจัดการสวนได้เป็นอย่างดี ตอนนี้นโยบายธ.ก.ส.กำลังต้อนรับนิวเจนลูกค้าที่เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ ซึ่งเน้นการผลิตพืชที่แตกต่าง อาจจะเป็นพืชชนิดเดิม แต่มีวิธีการผลิตที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเน้นการเพิ่มมูลค่าผลผลิตเป็นหลักไม่ได้เน้นขายผลสดแบบเดิมๆ เช่น ทำเป็นน้ำผลไม้ปั่น หรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตต่างๆ สิ่งสำคัญฟิกเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ ทางเจ้าของเขามีแนวคิดที่ดีเขาไม่ได้หวังผลกำไรมากมาย แต่เขาหวังว่าทุกคนจะได้กินผลไม้เพื่อสุขภาพโดยอาจจะซื้อกิ่งพันธุ์ไปปลูกที่บ้านเอาไว้กินในครอบครัว ซึ่งทางสวนเขาให้คำแนะนำได้ดีมาก จึงอยากเชิญชวนให้มาเที่ยวหาความรู้กันได้” ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาบ่อทอง กล่าวในที่สุด
หมายเหตุ : ติดต่อ The FIGnature ได้ที่ https://www.facebook.com/TheFIGnatureGarden/ หรือต้องการท่องเที่ยวสวน โทร.0969514992 (คุณจิ้น-พร้อมให้ความรู้แก่ทุกท่านครับ)