กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 16 มกราคม 2560 – ฟอร์ด ประเทศไทย ประกาศยอดขายประจำปี 2559 เพิ่มขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 40,972 คัน ส่งผลให้ฟอร์ดโตกว่าอัตราเฉลี่ยของตลาดยานยนต์โดยรวม และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดตลอดปีขึ้นมาอยู่ที่ 5.3 เปอร์เซ็นต์ จาก 4.6 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2558
ความสำเร็จของฟอร์ดในปี 2559 มาจากยอดขาย ฟอร์ด เรนเจอร์ ตลอดปีซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นรถกระบะที่ขายดีที่สุดในประเทศไทยเป็นอันดับสาม และความนิยมของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ฟอร์ด เรนเจอร์ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ช่วยขับเคลื่อนให้ฟอร์ด ประเทศไทย ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มสูงขึ้น รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้ ได้ยกระดับความคาดหวังของผู้บริโภค ด้วยความหลากหลายของดีไซน์ ความสะดวกสบาย รวมทั้งเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ ภายในรถยนต์” นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและฝ่ายขาย ฟอร์ด อาเซียน กล่าว
ฟอร์ด เรนเจอร์ รถกระบะเกิดมาแกร่ง ซึ่งผลิตขึ้นในประเทศไทย ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับตลาดรถกระบะกับยอดขายตลอดปีที่เพิ่มขึ้น 29 เปอร์เซ็นต์ หรือ 30,756 คัน ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของฟอร์ด เรนเจอร์เพิ่มขึ้น 1.9 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 9.2 เปอร์เซ็นต์
ยอดขายฟอร์ด เรนเจอร์ ในปี 2559 ที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นผลมาจากการเปิดตัว ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นย่อยใหม่อีก 6 รุ่น นำโดย ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 ซึ่งเป็นการนำฟอร์ด เรนเจอร์รุ่น XLT มาตกแต่งรูปลักษณ์ให้ดุดันและสปอร์ตมากยิ่งขึ้นพร้อมกับเพิ่มฟีเจอร์ระดับพรีเมี่ยม รวมไปถึงฟอร์ด เรนเจอร์รุ่น XL+ ซึ่งมอบตัวเลือกที่มากขึ้นสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์และการเกษตร
“ฟอร์ด เรนเจอร์ ยังคงเป็นรถที่ลูกค้าชาวไทยให้ความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้าที่ชื่นชอบในเอกลักษณ์ของรถกระบะ ‘เกิดมาแกร่ง’” นางสาวยุคนธร กล่าวเสริม
ในขณะที่ยอดขายรถยนต์อเนกประสงค์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ นั้น เติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 42 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปีและสามารถทำยอดขายได้ดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7,111 คัน ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดตลอดปีของฟอร์ดในเซกเมนต์นี้เพิ่มขึ้น 4.5 เปอร์เซ็นต์ สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดที่ 11.7 เปอร์เซ็นต์
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เป็นรถยนต์ที่ชาญฉลาดที่สุดรุ่นหนึ่งในเซกเมนต์รถยนต์อเนกประสงค์ โดยมาพร้อมกับระบบสั่งงานด้วยเสียง ฟอร์ด ซิงค์ 3 (SYNC 3) ผนวกกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เพื่อการช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างครบครันซึ่งรวมถึงระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System) ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (BLIS – Blind Spot Information System) ที่มาพร้อมระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด (Cross Traffic Alert) และระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist)
ในปี 2559 ฟอร์ดได้มุ่งมั่นพัฒนาการมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้าด้วยการริเริ่มโปรแกรมต่างๆ เช่น โปรแกรม60 Minutes Express Service Guaranteed ซึ่งลูกค้าสามารถทำการนัดหมายเพื่อเข้ารับบริการตรวจเช็คระยะและตรวจเช็คสภาพทั่วไป 30 รายการผ่านระบบออนไลน์
โดยหากฟอร์ดไม่สามารถให้บริการเสร็จตามกำหนดภายในระยะเวลา 60 นาที ลูกค้าจะได้รับบริการในครั้งนั้นฟรี ลูกค้าฟอร์ดสามารถนัดเข้ารับบริการดังกล่าวได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการฟอร์ด 30 แห่งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยในปีนี้ ฟอร์ดตั้งเป้าขยายโปรแกรมดังกล่าวเพิ่มเติมไปยังผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศอีกด้วย
นอกจากนี้ ฟอร์ดยังได้ขยายเวลาทำการที่โชว์รูมและศูนย์บริการฟอร์ด 30 แห่งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็น 7 วันต่อสัปดาห์
“เราวางแผนต่อยอดความสำเร็จจากปีที่แล้ว ซึ่งรวมไปถึงการเดินหน้าขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ พร้อมยกระดับการให้บริการโดยรวมเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ฟอร์ดให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง” นางสาวยุคนธร กล่าว
ปัจจุบัน ฟอร์ดมีโชว์รูมและศูนย์บริการรวม 140 แห่งทั่วประเทศ และยังมีการขยายเครือข่ายศูนย์จำหน่ายอะไหล่ (Parts Shop) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง