นายสุรเดช เตียวตระกูล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า จากมติเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีต่อการดำเนินโครงการปลูกพืชปุ๋ยสดของกรมพัฒนาที่ดิน เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 พื้นที่เป้าหมาย 200,000 ไร่ แบ่งเป็นปลูกเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ปุ๋ยพืชสด จำนวน 50,000 ไร่ และเพื่อไถกลบสำหรับปรับปรุงคุณภาพดิน จำนวน 150,000 ไร่ ดำเนินการในพื้นที่ 19 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ชัยนาท สระบุรี นครนายก อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก สุโขทัย พิษณุโลก และพิจิตร โดยกรมพัฒนาที่ดินจะสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ต้นทุนให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ไร่ละ 5 กิโลกรัม รายละไม่เกิน 20 ไร่ และสนับสนุนค่าไถเตรียมดินให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยมีเงื่อนไขตามที่กรมพัฒนาที่ดินกำหนดไร่ละ 500 บาท ค่าไถกลบไร่ละ 500 บาท และเกษตรกรต้องปลูกพืชปุ๋ยสดเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์อย่างน้อย 1 ใน 4 ส่วนของพื้นที่ เช่น มีพื้นที่เข้าร่วมโครงการ 20 ไร่ ต้องปลูกเพื่อผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด 5 ไร่ และไถกลบ 15 ไร่ เป็นต้น โดยจะรับซื้อเมล็ดพันธุ์คืนจำนวน 6,000 ตัน ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับเกษตรกรที่เข้ามาฝึกอบรมในศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิการผลิตทางการเกษตร (ศพก.) เพื่อให้เกษตรกรนำไปปรับปรุงบำรุงดินในพื้นที่ของตนเอง
“หลังจากที่กรมฯ ได้เปิดรับสมัครเกษตรกรที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ พบว่า มีเกษตรกรสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 13,957 ราย พื้นที่จำนวน 223,201.32 ไร่ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 พื้นที่เป้าหมายเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด เพื่อขายคืนเมล็ดพันธุ์ให้กรมฯ เป้าหมาย 50,000 ไร่ เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 56,132.40 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 112 และส่วนที่ 2 พื้นที่เป้าหมายปลูกเพื่อ ไถกลบพืชปุ๋ยสด เป้าหมาย 150,000 ไร่ เกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 167,068.92 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 111 และมีรายชื่อเกษตรกรที่ผ่านการตรวจสอบไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการปลูกพืชหลากหลาย และโครงการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทั้งสิ้นจำนวน 12,592 ราย พื้นที่ 196,639.52 ไร่ มีเกษตรกรที่ได้ดำเนินการไปแล้วจำนวน 1,481 ราย รวมเป็นพื้นที่จำนวน 22,343.50 ไร่ เกษตรกรได้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินจาก ธ.ก.ส. ไปแล้ว” อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าว