เรื่องโดย : ลุงพร เกษตรก้าวไกล
บ้านสนวนนอก ฟังชื่ออาจจำยากสำหรับคงต่างถิ่น แต่เชื่อไหมว่ามาแค่ครั้งเดียวก็จะจดจำชื่อได้ยาวนาน ถึงแม้จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในอำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ ที่เคยปกคลุมด้วยผืนป่าทึบที่มีต้นสนวนขึ้นอยู่จึงได้ชื่อว่าบ้านสนวน ได้ชื่อว่าเป็นชุมชนโบราณที่ยังคงดำรงวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ใช้ภาษาพื้นถิ่นเขมร และสืบสานการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน…
เหตุที่มีอันให้ได้รู้จักกับบ้านสนวนนอกจนเป็นที่มาของการได้มาท่องเที่ยวยังหมู่บ้านแห่งนี้ ก็เพราะว่าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ได้เชิญสื่อมวลชนไปร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วย “การส่งเสริมและสนับสนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล” เพื่อให้เกษตรกรและชุมชน มีความพร้อมในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนาอาชีพได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ช่วยลดต้นทุน เพิ่มรายได้และเสริมศักยภาพการแข่งขัน โดยมีเกษตรกร ภาคีเครือข่าย คณะผู้บริหารและพนักงานในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งจัดขึ้นที่วิสาหกิจชุมชนทอผ้าไหมพื้นเมืองบ้านสนวนนอก https://bit.ly/3PZdHNa
พอไปถึงผู้นำชุมชนก็ชักชวนให้ขึ้นรถนำเที่ยวประจำหมู่บ้าน จำนวน 2 คัน ใครใคร่เลือกนั่งคันไหนเชิญได้ รถทั้ง 2 คัน มีจุดน่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคันหลังที่รูปทรงยังกะกระสวยอวกาศ (ทราบภายหลังว่าชื่อ รถกระสวยอวกาศ) มันบาดใจเหลือเกิน ผู้เขียนตั้งใจจะเลือกนั่งคันนี้แหละ แต่ด้วยความที่อยากได้ภาพตอนที่รถวิ่งผ่านหน้าวัดสนวนนอก ซึ่งที่ทำการท่องเที่ยวไหมอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน มันน่าจะเป็นภาพที่สวยงาม ก็เลยยังไม่ขึ้นรถในทันที ตั้งใจว่าถ่ายภาพเสร็จ ค่อยส่งสัญญานให้รถจอดได้ แต่รถก็ออกไปเลย ทำอย่างไรดีล่ะคราวนี้ เดินวกกลับมาที่ทำการซึ่งกำลังเตรียมงานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ปรากฏว่าแต่ละคนกำลังยุ่งกันอยู่ก็บังเอิญเจอเพื่อนสื่อมวลชนคนหนึ่งที่หันรีหันขวางจึงตัดสินใจชวนเดินตามออกไป เดินไปถึงปากซอยเข้าหมู่บ้านก็ถามชาวบ้านคนแรกบอกว่าอีก 200 เมตร เดินไม่กี่ก้าวเจอคนที่ 2 บอกว่าอีก 300 เมตร(เพิ่มขึ้นมา 100 เมตร) และระหว่างนั้นเจอมอเตอร์ไซต์ของสมาชิกในหมู่บ้านที่ขับมาคนเดียว ก็เลยขอโบกรถ ซึ่งเธอใจดีมาก ขับรถไปส่งถึงบ้านที่กำลังสาธิตการทอผ้าไหม โอ้โหมันยิ่งใหญ่มากที่ได้เห็นกระบวนการทอผ้าไหมแบบโบราณที่คนในหมู่บ้านยังคงอนุรักษ์ไว้
ชาวบ้านช่วยกันจัดแสดงนิทรรศการ ตั้งแต่เลี้ยงไหมกินใบหม่อนในกระด้ง ไหมโตเป็นตัวดักแด้กลายเป็นเส้นไหม แสดงการสาวไหมที่ละเส้น การย้อมสีแต่ละสีด้วยวัสดุธรรมชาติ ชนิดเที่เรียกว่าครบทุกกระบวนการ จากนั้นพาไปดูขั้นตอนการทอผ้าไหม ยิ่งอลังการงานสร้างมาก พี่น้องชาวบ้านที่เป็นผู้เฒ่าผู้แก่(ผู้อาวุโส)ได้มาโชว์ฝีไม้ลายมือ กับเครื่องทอผ้าที่เป็นแบบโบราณ ทั้งเครื่องทอขนาดเล็กขนาดใหญ่
ผ้าไหมลายดั้งเดิมที่ตกทอดกันมาแต่โบราณ คือ ผ้าไหมหางกระรอกซึ่งถือเป็นลายเอกลักษณ์ของผ้าไหมบ้านสนวนนอก และอีกหลากหลายลายที่แสดงไว้
รวมความว่าเป็นภูมิปัญญาที่น่าทึ่งมากๆ กว่าจะเสร็จสรรพได้สักผืนต้องมีสมาธิจิตใจที่แน่วแน่ บวกฝีมือและประสบการณ์ที่สร้างมูลค่าได้มากโข ว่าแต่ใครละจะได้เห็นคุณค่าเหล่านี้ โชคยังดีที่เรายังมีหน่วยงานที่เข้าถึงเข้าใจพัฒนาให้สิ่งดีงามเหล่านี้ยังคงอยู่ในท้องถิ่น ว่าแต่สื่ออย่างเราก็พร้อมที่จะช่วยกันสื่อสารออกไป
ขากลับจากหมู่บ้านที่สาธิตการทอผ้า คราวนี้ได้นั่งรถกระสวยอวกาศเป็นที่นั่งสุดท้าย และท้ายสุดพอดี ระหว่างนั้นก็ได้ยินไกด์ด้านหน้ารถเข้าใจภายหลังว่าน่าจะเป็นเสียงผู้ใหญ่โอ๋ (นางสาวศุทธา โกติรัมย์) ผู้ใหญ่หมู่ 2 ในฐานะเลขานุการกลุ่ม ได้บรรยายให้ฟังว่ารถคันนี้ชื่อ “รถกระสวยอวกาศ” เพราะหน้าตาคล้ายกับกระสวยทอผ้าและมีหางคล้ายเครื่องบิน เกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของคนในชุมชนที่ช่วยกันบริจาคเงินคนละ 10 บาท 20 บาท ใช้เวลารวบรวมเงิน 3 ปี จึงได้เงินมาพอกับงบประมาณ 2.8 แสนบาท เป็นค่าสร้างรถคันนี้ เคยต้อนรับบุคคลสำคัญระดับประเทศ อย่างเช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คราวมาเยี่ยมชมกลุ่ม ตอนแรกนั้นสีขาวล้วนๆ แต่ตอนหลัง ธ.ก.ส.ได้ให้งบประมาณมาทำสีใหม่ให้ไฉไลดังเช่นทุกวันนี้
ฟังไกด์บรรยายระหว่างเดินทางตัดกับภาพท้องทุ่งนา และบ้านเรือนของชาวบ้านเพลินใหญ่ก็มาถึงดินแดนมหัศจรรย์นั่นก็คือ แปลงปลูกใบหม่อนที่ใช้เลี้ยงไหม ซึ่งบัดนี้ ธ.ก.ส.กับ ดีป้า ได้มาสร้างฝันของชาวบ้านให้เป็นจริงด้วยการจัดทำเป็นแปลงปลูกหม่อนอัจฉริยะหรือสมาร์ทฟาร์มที่มีระบบน้ำสั่งการผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผู้ใหญ่โอ๋ได้บรรยายให้ฟังตามที่เกษตรก้าวไกลไปด้วยกันได้LIVEสด ใครสนใจก็คลิกไปชมกันได้ https://fb.watch/ewFelZg50s/
ปิดท้ายก็มาเดินชมที่ทำการกลุ่มทอผ้าไหมบ้านสนวนนอก ซึ่งมีทั้งห้องทอผ้าที่จัดแสดงไว้อย่างสวยงาม พร้อมห้องที่จำหน่ายผ้าไหม ใครสนใจก็ดูจากภาพประกอบได้
ขอย้ำว่าเป็นชุมชนท่องเที่ยวที่ครบเครื่องมากๆ คนในชุมชนสมัครสมานสามัคคีอย่างดีเยี่ยมเห็นผ่านจากการจัดแสดงและการต้อนรับต่างๆแทบไร้ที่ติ มีรอยยิ้มทุกคน ชนิดที่ไม่ต้องขึ้นไปนั่งบนเครื่องบินนกแอร์(ทุกเที่ยวบินมีรอยยิ้ม) ขอแค่มานั่งบนรถกระสวยอวกาศก็จะยิ้มไม่หุบอยู่ในใจ และทราบว่า ความร่วมมือระหว่าง ดีป้า และ ธ.ก.ส. ในช่วงที่ผ่านมาสามารถสนับสนุนชุมชนไปสู่เป้าหมายจนได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย จะเป็นรางวัลใดก็อ่านจากลิงก์ข่าวข้างต้นนะครับ