วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) หรือ พกฉ. โดย พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) โดย ผศ.ดร. รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เพื่อร่วมกันส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านนวัตกรรมเกษตร วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งแวดล้อม และการให้บริการประชาชน โดยมีนางสาวสำเภาว์ งามเชย รองผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฝ่ายพัฒนา นายสุรวงศ์ วงษ์ศิริ รองผู้อำนวยการองค์การวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ผู้บริหารจากทั้งสองหน่วยงาน พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมศาสตร์พระราชา ชั้น 2 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เผยว่า “พกฉ. มีภารกิจในการเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตรของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย สืบสาน รักษา ต่อยอด หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บริหารจัดการองค์กรให้เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้ รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุน เครือข่ายและภาคีความร่วมมือ รวมถึงพันธมิตรในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการเกษตร นวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง ที่มุ่งเน้นให้สังคมไทยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับประยุกต์ใช้ จึงเห็นความสำคัญของการสร้างความร่วมมือกับองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ อพวช. หรือ NSM ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันโครงการและกิจกรรมต่างๆ พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อมที่สามารถส่งต่อให้สังคมไทย รวมถึงการพัฒนาและผลิตบุคลากรด้านการศึกษาวิจัย และถ่ายทอดองค์ความรู้ที่มีคุณภาพพร้อมนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ เพื่อร่วมมือขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรมเกษตร วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนในอนาคต”
ผศ.ดร. รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) หรือ NSM กล่าวว่า “NSM มีภารกิจในการส่งเสริมสังคมไทยให้เห็นถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่อการพัฒนาประเทศ พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนและประชาชนได้สนุกไปกับการค้นพบความมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม การลงนามในบันทึกความเข้าใจความร่วมมือระหว่าง อพวช. และ พกฉ.ในครั้งนี้ เป็นการประสานความร่วมมือและทรัพยากรของทั้งสององค์กรเพื่อพัฒนาบุคลากร กิจกรรม และแหล่งเรียนรู้ด้านการศึกษาวิจัย และการสื่อสารวิทยาศาสตร์ โดยจะมีการจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมที่น่าสนใจเพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของธรรมชาติต่อไป”
ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านนวัตกรรมเกษตร วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งแวดล้อม และการให้บริการประชาชน ซึ่งจะช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ตลอดจนสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับเยาวชน เกษตรกร ประชาชนที่สนใจในด้านเกษตรกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ พกฉ. และ อพวช. ต่างมีความคาดหวังร่วมกันโดยการใช้ทรัพยากร กิจกรรม และความสามารถจากทั้งสองหน่วยงานในการดำเนินการขับเคลื่อนตามภารกิจกรอบความร่วมมือที่กำหนดไว้เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่สังคม