เรื่อง : จตุพล ยอดวงศ์พะเนา
นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ทีมงานเกษตรก้าวไกล ท่องแดนอีสานใต้ ได้เดินทางไปที่หมู่บ้านเจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์
เราได้พบกับ นางสำรวย ศรีมะเรือง ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพทอผ้าไหม-ฝ้าย ม.12 และชาวคณะ ที่พาเราไปรู้จักกับ “ผ้าย้อมดินภูเขาไฟ” ซึ่งเกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่ได้นำวัตถุดิบจากธรรมชาติ ที่หาได้ในท้องถิ่น มาประยุกต์ใช้ โดยเป็นกรรมวิธีในการย้อมสีผ้าให้ออกมามีสีสวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ ด้วยการนำผ้าฝ้ายหรือผ้าไหม ไปย้อมกับดินภูเขาไฟ หนึ่งในวัตถุดิบสำคัญที่หาได้ ไม่ยากเพราะหมู่บ้านเจริญสุขนั้น ตั้งอยู่ใกล้กับ “เขาพระอังคาร” ซึ่งเป็นภูเขาไฟเก่าแก่ที่ดับแล้ว 1 ใน 6 ลูกของ จ.บุรีรัมย์ ดินแร่ธาตุจากลาวาภูเขาไฟที่ปะทุออกมาในอดีต ซึ่งนอกจากเป็นประโยชน์ ในการเพาะปลูกแล้ว ชาวบ้านเจริญสุขยังคิดค้นวิธีการนำดินเหล่านี้มาใช้ย้อมผ้าอีกด้วย จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์สร้างชื่อ มีเอกลักษณ์ของท้องถิ่น แดนดินภูเขาไฟ
ช่วงที่เราเดินทางไปถึงได้เห็นแม่สำรวย ศรีมะเรือง กับเพื่อนบ้านกำลังขุดดินจากภูเขาพระอังคาร ที่จะนำไปย้อมผ้า
แม่สำรวย กล่าวว่า เมื่อได้ดินมาแล้วเราก็จะนำมาคัดเฉพาะดินสีแดง และนำเศษกิ่งไม้ออก จากนั้นก็จะนำดินมาใส่ครกตำให้ละเอียด แล้วก็นำไปผสมกับเปลือกไม้ประดู่ ก่อนที่จะนำเส้นผ้าลงไปหมักโคลนหรือหมักดินภูเขาไฟที่เตรียมไว้ แล้วก็จะนำไปลงย้อมในน้ำไม้ประดู่อีกครั้ง เพื่อใช้สีของยางไม้ให้ติดกับผ้าอย่างสนิท เหมือนกับเราที่ใช้ย้อมแห ย้อมอวนหาปลา ระหว่างการย้อมจะได้กลิ่นของดินภูเขาไฟและเปลือกไม้ประดู่ไปพร้อมๆกัน
คุณแม่สำรวย ใช้เวลาย้อมอยู่ประมาณ 40 นาที ถ้าเป็นผ้าฝ้ายก็จะย้อมง่ายกว่าผ้าไหม หากเป็นผ้าไหมเราจะมีการกรองอีกชั้นหนึ่ง หลังจากใช้เวลา 40 นาทีแล้วเราก็จะนำไปตากให้แห้ง จะนำไปตัดเย็บต่อไป
คุณทองใส กรรไกรทอง ช่างตัดเย็บฝีมือดีของบ้านเจริญสุข
แม่สำรวย พาลุงพร เกษตรก้าวไกล ไปเยี่ยมชมห้องตัดเย็บเสื้อผ้าของทางกลุ่มที่จัดเตรียมไว้ ผ้าแต่ละผืนจะเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน ซึ่งเป็นผ้าฝ้ายอัคนีที่ย้อนจากดินภูเขาไฟและยางไม้ประดู่อันสวยงาม แปลกตาไปอีกแบบ โดยเฉพาะลายดอกฝ้ายคำบาน และลายพระราชทาน จะเป็นที่นิยมชมชอบของลูกค้า ซึ่งตัดโดยช่างฝีมือเลิศ คุณสุจิตรา ชนิดนอก หรือ คุณทองใส กรรไกรทอง
ลุงพรหลังได้ยินกิตติศักดิ์แล้ว ก็ให้ช่างทองใส กรรไกรทอง วัดตัวตัดชุดทันทีโดยไม่ลังเลใจ โดยใช้เวลาตัดเย็บประมาณ 2 ชั่วโมง
ระหว่างที่รอเสื้อผ้า คุณแม่สำรวยพาเราไปชม ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่อยู่ในร้าน เริ่มด้วยผ้าพันคอผืนสวยงาม ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานราชการ ซึ่งได้รับลายพระราชทานสัญลักษณ์ตัว s อีกด้วย ผ้าพันคอชนิดนี้เป็นผ้าที่ขายดีที่สุดของชุมชน นอกจากนี้ยังมีผ้ามัดย้อมที่ไว้สำหรับ workshop ของนักเรียน นักศึกษาที่มาเรียนรู้กับเรา แต่ละผืนสุดแล้วแต่จินตนาการของแต่ละคน แต่ละผืนก็จะเป็นผ้าชิ้นเดียวในโลกซึ่งขายดีอีกเช่นกัน
น้องใบเฟิร์น แนะนำผลิตภัณฑ์จากผ้าภูอัคคนี
ส่วนน้องใบเฟิร์น ซึ่งเป็นลูกหลานของชุมชน ได้พาลุงพรไปรู้จักกระเป๋าอัคนี ที่ได้จากผ้าย้อมดินภูเขาไฟ นำมาแปรรูปเป็นกระเป๋า นอกจากนี้ยังมีเสื้อมัดย้อมราคาเริ่มต้นตัวละ 200 บาท แล้วแต่แบบ ทีมงานเราไปสะดุดตากับเสื้อผ้าที่ตัดละออกแบบโดยคุณทองใส กรรไกรทอง ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ แล้วแต่ความพึงพอใจของลูกค้าที่จะสั่งตัด น้องใบเฟิร์น ยังนำมาสวมใส่เป็นนางแบบ ให้เราถ่ายทำเป็นคลิปสวยๆ อีกด้วย
ท้ายสุดลุงพร ได้สวมเสื้อที่ตัดโดยคุณทองใสกรรไกรทอง อย่างสาสมใจ เป็นผ้าย้อมดินภูเขาไฟ อันสวยสดงดงาม สีออกเหลืองส้มแปลกหูแปลกตา เพราะที่ผ่านมาลุงพรใส่แต่เสื้อลาย
คุณแม่สำรวย ได้กล่าวขอบคุณธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ที่ช่วยผลักดันผ้าย้อมดินภูเขาไฟ ของหมู่บ้านเจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ให้เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ ทั้งสนับสนุนสินเชื่อ เรื่องบรรจุภัณฑ์ การประชาสัมพันธ์ การตลาดและให้องค์ความรู้ต่างๆ กับชุมชนเราด้วยดีตลอดมา และขอให้สนับสนุนเราเช่นนี้ตลอดไปจ้า